กัมพูชาปฏิเสธรายงานเกี่ยวกับการระงับการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ระบุเป็น "ข้อมูลเท็จและการบิดเบือน" ย้ำการเดินทางผ่านสนามบินยังคงทำได้ตามปกติ
(15 ธ.ค.68) กระทรวงมหาดไทยกัมพูชาออกมาปฏิเสธรายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจระงับการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกัมพูชาและไทย โดยแย้งว่า รายงานที่ระบุว่ารัฐบาลกัมพูชาสั่งห้ามเดินทางข้ามพรมแดนทั้งหมด ทั้งขาเข้าและขาออกในจุดตรวจด่านชายแดน ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2568 นั้น เป็น "ข้อมูลเท็จและการบิดเบือน" ของฝ่ายไทย โดยเฉพาะจากผู้นำระดับอาวุธโสและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไทย และได้รับการสนับสนุนโดยสื่อต่าง ๆ ที่ "ไร้ความเป็นมืออาชีพ" เพื่อป้ายสีว่ากัมพูชาละเมิดสิทธิมนุษยชน
ทางการกัมพูชาย้ำว่าการตัดสินใจระงับการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกัมพูชาและไทยมีผลบังคับใช้เฉพาะด่านพรมแดนทางบกเท่านั้น การเดินทางทางอากาศและการข้ามพรมแดนจากกัมพูชาไปยังประเทศอื่น ๆ ยังคงทำได้ตามปกติ
ก่อนหน้านี้ สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความว่า ข้อเสนอแนะให้รัฐบาลกัมพูชาระงับการเดินทางของชาวกัมพูชาและชาวไทยข้ามพรมแดนทางบกนั้น อาจมีความสับสนหรือการยั่วยุจากอีกฝ่ายที่คิดว่ากัมพูชาจะไม่ยอมให้ชาวไทยกลับประเทศ ขอชี้แจงว่าการระงับเป็นเฉพาะทางบกเท่านั้น เพราะมีการสู้รบเกิดขึ้นตลอดแนวพรมแดนทางบกและทางทะเลบางส่วน การเดินทางทางอากาศยังคงเป็นไปได้ และโปรดอย่าใช้เจตนาดีของตนในการปกป้องชีวิตของทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทยมาโจมตีเช่นนี้
ขณะเดียวกัน แม้ว่าจะมีภาพชัดเจนว่าบ้านเรือนประชาชนในประเทศไทยได้รับความเสียหายจากการสู้รบ แต่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ระบุว่ากองกำลังกัมพูชามีเป้าหมายโจมตีพื้นที่ของพลเรือน พร้อมยืนยันว่ากองกำลังกัมพูชาเพียงแค่รักษาสิทธิในการป้องกันตนเองจากการโจมตีของฝ่ายไทยเท่านั้น
