อสส. รับคดี ฮุนเซน-ฮุน มาเนต สั่งยิงระเบิดตกในไทยรอบเเรกเป็นคดีนอกราชอาณาจักร

อสส. รับคดี ฮุนเซน-ฮุน มาเนต สั่งยิงระเบิดตกในไทยรอบเเรกเป็นคดีนอกราชอาณาจักร

View icon 128
วันที่ 15 ธ.ค. 2568 | 15.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อสส. สั่งรับคดี สมเด็จฯ ฮุนเซน - ฮุน มาเนต สั่งยิงระเบิดตกในไทยรอบแรกเป็นคดีนอกราชอาณาจักร  อธ.อัยการสอบสวน จัดคณะอัยการลงพื้นที่ภาค 3 ร่วมสอบ

วันนี้ (15 ธ.ค.68) นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีทหารกัมพูชายิงทั้งปืนและระเบิดตกมายังพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนในไทย เป็นเหตุให้มีคนไทยเสียชีวิต 32 ราย และบาดเจ็บ 238 ราย ทรัพย์สินเสียหายเกือบร้อยล้านบาท ระหว่างช่วงวันที่ 24 - 29 ก.ค. 2568 ว่า เรื่องนี้ในส่วนคดีอาญาไม่ได้เงียบเฉย เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อัยการสูงสุด ได้พิจารณามีคำสั่งรับคดีที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ยื่นขอให้ดำเนินคดีกับนสมเด็จฯ ฮุนเซน และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่สั่งการยิงระเบิดจนเป็นเหตุให้คนไทยบาดเจ็บล้มตายไว้เป็นคดีนอกราชอาณาจักรแล้ว

นอกจากนี้ อัยการสูงสุดยังมีคำสั่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นพนักงานสอบสวน พร้อมให้อัยการจากสำนักงานการสอบสวนไปร่วมสอบสวนคดี และยังมีคำสั่งตั้งให้อัยการจังหวัดในพื้นที่ที่เกิดความเสียหายเป็นอัยการเข้าร่วมการสอบสวนด้วย

ในส่วนของสำนักงานการสอบสวนตนได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงาน โดยตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานและมีทีมอัยการสำนักงานสอบสวนรวมทั้งหมด 18 คน หลังจากนี้จะมีนัดประชุมกับทีมสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อวางหลักเกณฑ์แนวทางว่าควรทำอย่างไร โดยคณะเราจะลงไปในพื้นที่ภาค 3 เอง ซึ่ง ป.วิอาญา มาตรา 20 ให้อำนาจอัยการร่วมสอบสวน มีอำนาจสั่งการแนะนำในการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งถือว่าในคดีนอกราชอาณาจักรอัยการจะเป็นผู้คุมคดีนี้

“เราจะเข้าไปให้คำแนะนำและสั่งการในการรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าเราวางแนวทางเสร็จแล้วพยานหลักฐานใดที่ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 จะสอบสวนเพิ่มเติม มีพยานอะไรอื่นใด ทางทีมงานเราพร้อมที่จะสอบให้ แต่ถ้าเกิดเหตุจำเป็นเร่งด่วน กรณีเช่นว่ามีพยานที่จะต้องสอบสวนก็สามารถมอบอัยการจังหวัดในพื้นที่เกิดเหตุร่วมสอบสวนได้

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีนี้คือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งท่านจะเป็นผู้สรุปสำนวนทำความเห็นว่าเห็นควรสั่งฟ้องหรือเห็นควรสั่งไม่ฟ้องคดีเสนอท่านอัยการสูงสุดพิจารณาแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งคดีนอกราชอาณาจักรเป็นอำนาจอัยการสูงสุด เมื่ออัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว อาจจะสั่งสอบเพิ่มเติม หรืออาจจะเห็นด้วยในพยานหลักฐานที่ชัดเจนทั้งหมด และก็สั่งฟ้องหรืออาจจะสั่งไม่ฟ้อง อันนี้เป็นดุลพินิจของอัยการสูงสุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง