สิ้นชื่อ KK Park รังแก๊งสแกมเมอร์

View icon 24
วันที่ 16 ธ.ค. 2568 | 07.09 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - จบแล้วเมือง "KK Park" และ "ชเวโก๊กโก่" หลัง 3 ชาติ ผนึกกำลังทลายรังแก๊งสแกมเมอร์ ทุบตึกทิ้งราบคาบ เตรียมหิ้วตัวเครือข่ายสแกมเมอร์ล็อตใหญ่กลับไปดำเนินคดีที่จีนเร็ว ๆ นี้

พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รอง ผอ.ศปอส.ตร. พร้อมด้วย นายหลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ได้ลงพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อผนึกกำลังกับทางการเมียนมา ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติครั้งใหญ่ที่สุด

โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของเมียนมา ได้นำคณะทำงานของไทยและจีน เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายหลัก 2 แห่ง ได้แก่ KK Park และ ชเวก๊กโก ฐานบัญชาการใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนทั่วโลก

พบว่า อาคารตึกสูงและสำนักงานที่เคยเป็นแหล่งกบดานของเหล่าสแกมเมอร์ ได้ถูกทุบทำลายทิ้งอย่างถาวร สภาพปัจจุบันเหลือเพียงความว่างเปล่าและซากอาคาร ยืนยันให้เห็นถึงความร่วมมือ และความจริงจังในการปราบปราม ไม่ให้เหลือสถานที่สำหรับตั้งฐานปฏิบัติการหลอกลวงประชาชนได้อีก ส่งผลให้กลุ่มจีนเทาและลูกจ้างสแกมเมอร์ ไม่สามารถทำการหลอกลวงคนในหลายประเทศได้อีกต่อไป

ต่อมาช่วงบ่าย ได้มีการประชุมไตรภาคีร่วมกันระหว่าง พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. รอง ผอ.ศปอส.ตร. และคณะ ,พลตำรวจตรี มิน ไทก์ เมียว รองผู้บัญชาการตำรวจเมียนมา และคณะ ผู้แทนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และนายหลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ผู้แทนสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ห้องประชุมสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ฝั่งเมียนมา โดยได้ข้อสรุปมาตรการขั้นเด็ดขาด

ซึ่งประเทศไทย จะใช้กลไกของศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีการเสนอตั้งคณะทำงานร่วม Joint Task Force เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล พยานหลักฐานเพื่อขยายผลเครือข่ายร่วมกัน ภายใน 24 ชั่วโมง โดย เน้นย้ำหลักการ "อาชญากรรมไร้พรมแดน การปราบปรามต้องไร้พรมแดน" จะต้องร่วมมือแบบไร้ข้อจำกัดและรวดเร็ว โดยจะยังคงนโยบายประสานงานร่วมกันในการตัดวงจรปัจจัยพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า, สัญญาณอินเตอร์เน็ต ของกลุ่มอาชญากรในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังตกลงกัน ที่จะให้ความร่วมมือด้านการอำนวยความสะดวก และลดขั้นตอน เรื่องการส่งตัวกลุ่มชาวต่างชาติที่หลบหนีออกจากเมียนมากลับประเทศ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว, ลดภาระเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย และ เพื่อความปลอดภัยของชาวต่างชาติ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย

ผลพวงจากการทุบทำลายตึกและฐานที่มั่น มีกลุ่มสแกมเมอร์ชาวจีนจำนวนมาก ในพื้นที่ KK Park และ ชเวก๊กโก ถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับกุมตัวได้ โดย นายหลิวจงอี้ และคณะ ได้เดินทางไปตรวจสอบ "ห้องกักตัว" ในเมืองเมียวดี ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยผู้ต้องหาชาวจีน โดยทั้งหมดถูกควบคุมตัวไว้ เพื่อรอขั้นตอนการส่งตัวกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมายที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือเป็นจุดจบของขบวนการต้มตุ๋นข้ามชาติที่สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยและคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน

ความร่วมมือระหว่างประเทศในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่า พื้นที่ชายแดนจะไม่ใช่ "เซฟโซน" ของอาชญากรอีกต่อไป เมื่อ 3 ประเทศร่วมมือกันจนมีผลเป็นรูปธรรมดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง