นครพนม-ผบก.ตม.4 ร่วมด่านศุลกากร สรรพสามิตนครพนม ตรวจเข้มรถบรรทุกน้ำมัน ผ่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว 3 จ.นครพนม
ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง ยุทธภัณฑ์ที่บริเวณด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตรวจสอบพบการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีปริมาณมากกว่าปกติ โดยเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 พล.ต.ต.ไพรัช พุกเจริญ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 (ผบก.ตม.4) มีความกังวลว่า เมื่อมีมาตรการการสกัดห้ามส่งออกน้ำมันผ่านทางด่านช่องเม็กแล้ว มีความเป็นไปได้ที่รถบรรทุกขนส่งน้ำมัน อาจจะเปลี่ยนช่องทางในการส่งออกไปยังด่านอื่นๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ติดกับ สปป.ลาว และอาจจะถูกขายส่งไปยังกัมพูชาต่อไปได้ จึงต้องลงพื้นที่มาสังเกตการณ์ และให้ข้อมูลกับหน่วยงานชายแดน
พร้อมสั่งการให้ พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม (ผกก.ตม.จว.นครพนม) ร่วมมือกับ นายอังกูร อังคะเจริญ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรนครพนม นายยิ่งยศ นวลตา เจ้าพนักงานสรรพสามิตชำนาญงาน สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครพนม และหน่วยงานที่รับผิดชอบ กำกับดูแลการส่งออกน้ำมันผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ให้นำข้อมูลมาร่วมกันตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่า บริษัทที่ส่งออกน้ำมันผ่านด่านพรมแดนโดยใช้รถบรรทุก นำน้ำมันไปเก็บหรือส่งที่ใด นำไปเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของทหารไทยที่ปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชนคนไทย
พล.ต.ต.ไพรัช พุกเจริญ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 (ผบก.ตม.4) เปิดเผยว่าจังหวัดนครพนม มุกดาหาร และ อุบลราชธานี อยู่ติดกับ สปป.ลาว โดยพื้นที่ชั้นในของประเทศลาว สามารถเดินทางติดต่อกับประเทศกัมพูชาได้ เพราะด่านพรมแดนของสองประเทศนี้ไม่ได้ปิด ยังเดินทางหรือขนส่งสินค้าไปมาได้
จากการตรวจสอบข้อมูลที่ด่านช่องเม็ก จ.อุบลฯ มีการอนุญาตส่งออกน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาได้แจ้งไปยังแม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ให้ออกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมัน เพราะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายขึ้น เพื่อตรวจสอบ ป้องกันน้ำมันที่เข้าไปในลาวแล้ว สามารถที่จะไหลลงไปชายแดนกัมพูชาได้ เนื่องจากมีปริมาณการสั่งซื้อที่ผิดปกติมากกว่าปกติที่เคยปฏิบัติ
ซึ่งในปัจจุบัน จ. นครพนม ที่มีพรมแดนติดกับเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ยังไม่มีคำสั่งจากทางการให้ห้ามการส่งออกน้ำมัน รวมทั้งยังไม่พบสิ่งปกติในการส่งออกเชื้อเพลิง โดยจากการสังเกตการณ์พบรถบรรทุกน้ำมัน จอดรอข้ามไปยังฝั่งลาวเพียง 3 คันเท่านั้น ถึงอย่างไรได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้ใช้ดุลพินิจ ตรวจสอบข้อมูลผู้ซื้อ หรือผู้ประกอบการในฝั่งลาวอย่างเข้มงวด