ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เข้าสู่วันที่ 10 การสู้รบ แนวหน้า ไทย-กัมพูชา ยังยิงตอบโต้กันดุเดือด แต่พบว่า กำลังพลของทหารกัมพูชาบาดเจ็บเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีกำลังพลชุดใหม่เข้าไปทดแทนอย่างต่อเนื่อง
เริ่มกันที่สมรภูมิการสู้รบ ริมชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างคลิปนี้ จะเห็นว่าทหารกัมพูชาต้องช่วยกันพยุงกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ ถอนกำลังออกมาจากพื้นแนวหน้า ลงมาจากที่สูง หลังจากถูกทหารไทยยิงตอบโต้ ได้รับบาดเจ็บลงมารักษาตัว โดยระบุว่า "อยู่บ้านมีแม่คนละคน แต่ในสมรภูมิ เราคือพี่น้องร่วมเป็นร่วมตาย"
ขณะที่คลิปนี้ เป็นการยิงตอบโต้ทหารไทย ด้วยปืนกลมือ ที่มีอานุภาพรุนแรง และหนักหน่วงกว่าปืน M-16 และ HK ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีการยิงออกมาเป็นชุดๆ อย่างต่อเนื่อง ออกมาจากแนวบังเกอร์กลางป่า สลับกับอาวุธปืนประจำกาย ซึ่งพบว่าทหารกัมพูชา น่าจะนำเข้ามาประจำการอยู่แนวหน้าจำนวนมาก
ส่วนช่วงพักกลางวัน ทหารกัมพูชาถ่ายภาพกำลังพล ที่นั่งกินมื้อเที่ยงอยู่ใต้พงหญ้า โดยพรางตัวกินข้าวกันอยู่ในหลุมบังเกอร์ที่สร้างไว้
เช่นเดียวกับทหารกัมพูชากลุ่มนี้ หลังจากยิงตอบโต้กันอย่างหนัก ก็ได้หลบเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในร่องภูเขา ซึ่งเป็นหิน เข้าไปนั่งล้อมวงกินข้าวกัน โดยระบุว่า พักเติมพลังงาน เพื่อสู้กับทหารไทย ส่วนอาหารก็เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
การสู้รบที่ยืดเยื้อยาวนาน ทำให้ทหารกัมพูชา หนวดเคราเริ่มยาวเฟื้อย ถ่ายคลิปตัวเองเข้าไปหลบซ่อนอยู่ใต้บังเกอร์แนวหน้าการสู้รบ ที่ปราสาทตาควาย ซึ่งที่ในคลิปภาพจะได้ยินเสียงการยิงปะทะกัน ทั้งปืนเล็ก ปืนใหญ่ ที่ตอบโต้ใส่กันตลอดเวลา
ส่วนคลิปนี้ ทหารกัมพูชาถ่ายไว้ขณะที่เพื่อนทหารอีกนาย กำลังนำกระสุนปืน "ครก" ไปหย่อนใส่ในลำกล้อง แล้วยิงเข้าไปใส่ทหารไทย เสียงดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมระบุแคปชันว่า "เกียรติภูมิของทหารกัมพูชา" ซึ่งมีการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ทหารกัมพูชา ซึ่งเป็นทหารใหม่ที่ถูกส่งเข้าไปทดแทนกำลังพลที่สูญเสีย เมื่อไปถึงก็โพสต์คลิปภาพ ถ่ายรูปพร้อมอาวุธประจำกาย ที่ให้เห็นอาวุธปืนอีกหลายชนิดที่ใช้อยู่แนวหน้า วางอยู่ในแนวคูแรท ซึ่งลงไว้เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
ส่วนภาพนี้ ทหารกัมพูชาดุดันไม่เกรงใจใคร นอนกอดอาวุธปืนสงคราม อยู่แนวหน้า ขณะที่ตรงหน้าอกพันด้วยกระสุนปืนไว้รอบตัว พร้อมระบุแคปชันว่า "สู้จนถึง วันสุดท้ายของชีวิต"
ระยะหลังทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนได้คล่องแคล่ว เพราะว่าถูกส่งไปฝึกยุทธวิธีทางทหาร โดยในคลิป ทหารทุกนายทั้งชายและหญิง ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดกัมพูชา ไปติดป้ายชื่อเป็นภาษาจีนทั้งหมด โดยระบุว่า "เป็นการฝึกรบทางยุทธวิธี" ร่วมกับกองทัพจีน ณ มณฑลยูนนาน ซึ่งกำลังพลกัมพูชา ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของกองทัพจีนอย่างเคร่งครัด ทั้งสวมเครื่องแบบทหาร หมวกและอาร์มเครื่องหมายของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ไม่เว้นแม้แต่รายชื่อประจำตัว ที่ถูกกำหนดให้เป็นภาษาจีนด้วย
