สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้

View icon 357
วันที่ 17 ธ.ค. 2568 | 20.05 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 09.22 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ทรงเปิดงานประชุมวิชาการ Thailand-Japan Student Science Fair 2025 (TJ-SSF 2025) ซึ่งกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 ธันวาคม 2568 ภายใต้แนวคิด "การบ่มเพาะนวัตกรรมผ่านมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างเยาวชนไทยและญี่ปุ่น" เพื่อให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยและญี่ปุ่น ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ และศิลปวัฒนธรรม ผ่านการนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ จำนวน 173 โครงงาน และร่วมทำกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี มีผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 800 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร ครู และนักเรียน จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำทั้งในประเทศไทย และญี่ปุ่น จำนวน 75 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียน Super Science High School สถาบันโคเซ็น โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย และโรงเรียนที่เน้นการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของไทย มีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง

โอกาสนี้ ทรงมีพระราชดำรัส เปิดการประชุม และทอดพระเนตรการนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ที่ได้รับคัดเลือก 2 โครงงาน ได้แก่ โครงงานการศึกษาผลการใช้ไมโครแคปซูลในกระบวนการขึ้นรูปแผ่นฟิล์ม เพื่อประยุกต์ใช้เป็นหลังคาดูดซับคลื่นรังสีอัลตราไวโอเลต ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของผักกาดหอม ของนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี ซึ่งมีประสิทธิภาพดูดซับบรังสี UV สูงถึงร้อยละ 96.82 ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของผักกาดหอมได้มากถึงร้อยละ 40, โครงงานเรื่อง การอนุรักษ์แมงป่องน้ำชนิดใกล้สูญพันธุ์ เป็นการศึกษาแนวทางการเพาะเลี้ยงเทียมและการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษา ของนักเรียนจาก Nara Women's University Secondary School ประเทศญี่ปุ่น โดยศึกษาชีววิทยาการสืบพันธุ์ เพาะเลี้ยงในสภาพแวดล้อมจำลองระยะยาว และพัฒนาแอปพลิเคชันให้ข้อมูลการอนุรักษ์แมงป่องน้ำ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางนิเวศวิทยา

จากนั้น ทรงฟังศาสตราจารย์ ดร.อามาโนะ ฮิโรชิ นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ ปี 2014 จากประเทศญี่ปุ่น บรรยายพิเศษ หัวข้อ "แรงปรารถนาแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรม : มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นที่มีทรัพยากรจำกัด" ซึ่งจุดประกายความก้าวหน้าสู่ระดับโลก กล่าวถึงผลการวิจัยดัดแปลงโครงสร้างไนไตรด์ ด้วยการควบคุมอุณหภูมิ ความร้อน และสารเร่งปฏิกิริยา ทำให้พัฒนาไดโอดเปล่งแสงสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นพื้นฐานของเทคโนโลยีจอ LED ก่อให้เกิดนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงวงการโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ จากจอภาพขนาดใหญ่หนา มาเป็นจอ LCD ขนาดบาง

และ นายแพทย์ธีระเมศ ปังประเสริฐ แพทย์ประสาทวิทยาประจำศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลศิริราช นักเรียนเก่าโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย บรรยายพิเศษ หัวข้อ "ประโยชน์ของการให้ยาป้องกันการติดเชื้อรา สำหรับการติดเชื้อรารุกรานในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน" พบว่าผู้ป่วยที่รับยาป้องกันเชื้อรามีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลงได้ ซึ่งกำลังนำเสนอเพื่อบรรจุเข้าเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติต่อไป

ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรการนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ในรูปแบบโปสเตอร์ของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น 5 โครงงาน ได้แก่ การพัฒนาเว็บไซต์ ช่วยสนับสนุนผู้ใช้รถเข็นที่อยู่ในวัยเรียน ให้เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้ปลอดภัย, การศึกษาผลกระทบของดนตรีต่อสมาธิและประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักเรียน, การพัฒนาเซนเซอร์ชนิดใหม่ที่ใช้เคอร์คูมิน สกัดจากขมิ้นชัน สำหรับตรวจวัดแอลดีไฮด์สายยาว ซึ่งเป็นสารบ่งชี้โรคมะเร็งปอด, การพัฒนาระบบวิเคราะห์คุณภาพและบ่งบอกเหตุผลของระดับคุณภาพเนื้อโคขุนโพนยางคำ สำหรับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และการพัฒนาฟองน้ำห้ามเลือดจากโปรตีนกากถั่วเหลืองและไคตินจากเห็ดนางฟ้าที่ย่อยสลายได้ในร่างกาย เสริมประสิทธิภาพด้วยสารสกัดใบบัวบกสำหรับใช้ในทางการแพทย์

นอกจากนี้ มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี แสดงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อการพัฒนาศักยภาพเยาวชนด้านวิทยาศาสตร์ ผ่านการสนับสนุนโครงการฝึกอบรม ครู-ผู้นำนักเรียน งานวิชาการ และโครงการพิเศษ ทำให้เยาวชนเข้าถึงการเรียนรู้เชิงปฏิบัติได้มากขึ้น สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการทั้งในและต่างประเทศ สะท้อนพระวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาการศึกษา เพื่อเสริมสร้างเยาวชนให้มีศักยภาพพร้อมเผชิญความท้าทายของโลกในยุคปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีอัจฉริยะ

เวลา 14.45 น. เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายรัคมัต บูดีมัน (Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลลา ในโอกาสที่จะพ้นจากหน้าที่ โอกาสนี้ นางเรอีตันตี บูดีมัน (Mrs. Reitanty Budiman) ภริยาเอกอัครราชทูตฯ ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย

นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน เพื่อสนับสนุนกองทุนบูรณะฟื้นฟูอุบัติภัยมูลนิธิชัยพัฒนา

ข่าวอื่นในหมวด