เช้านี้ที่หมอชิต - ตามต่อกรณีเรื่องที่ทหารไทยยึดอาวุธหนักของกัมพูชาบนเนิน 500 ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 15 ธันวาคม ภายหลังตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธที่ผลิตในจีน ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าจีนได้ส่งมอบอาวุธหนักให้ทางกัมพูชาหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานนี้เรานำเสนอข่าวไปว่า ทางเอกอัครราชทูตจีน ได้ชี้แจงเรื่องนี้กับทางปลัดกระทรวงการต่างประเทศว่า จีนไม่ได้ส่งอาวุธให้กัมพูชา
ล่าสุดทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงประเด็นนี้อีกครั้ง ระบุว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยในการแถลงข่าวประจำวันของกระทรวงการต่างประเทศจีนในวันที่ 17 ธันวาคม 2568 มีผู้สื่อข่าวตั้งคำถามว่า มีรายงานว่า ระหว่างการปะทะในชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารไทยได้ยึดยุทโธปกรณ์ รวมถึงขีปนาวุธต่อต้านรถถังที่ผลิตในจีน จากทหารกัมพูชา ฝ่ายจีนมีความเห็นอย่างไรต่อประเด็นนี้
คำตอบคือ จีนได้มีความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศตามปกติกับทั้งไทยและกัมพูชาในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้มุ่งเป้าไปยังประเทศที่สาม และไม่เกี่ยวข้องกับการปะทะในชายแดนไทย-กัมพูชา
ขณะที่ทางเพจ Army นำคลิปทหารกัมพูชามาเปิดเผย พร้อมระบุว่า เปิดคลิปทหารกัมพูชาถูกส่งไปฝึกยุทธวิธีทางทหารในจีน ถูกสั่งเปลี่ยนเครื่องแบบ-ติดป้ายชื่อภาษาจีนทั้งหมด
คลิปวิดีโอที่ถูกทหารกัมพูชารายหนึ่งอัพลงในกลุ่มเทเลแกรม ก่อนจะถูกลบออกในเวลาต่อมา แสดงให้เห็นปฏิบัติการของทหารกัมพูชาที่ถูกส่งไปเข้ารับการฝึกรบทางยุทธวิธีร่วมกับกองทัพจีน ณ มณฑลยูนนาน ประเทศจีน และปฏิบัติตามกฎระเบียบของกองทัพจีนอย่างเคร่งครัด
ก่อนการฝึกดังกล่าว ทหารกัมพูชาถูกบังคับให้เปลี่ยนไปสวมเครื่องแบบทหาร, หมวก และอาร์มเครื่องหมายของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ป้ายชื่อประจำตัวที่ถูกกำหนดให้ใช้เป็นภาษาจีน
จากนั้นทางเพจ Army ได้คอมเมนต์ต่อว่า บางคอมเมนต์ว่า ก็ไม่แปลกนิ เรายังไปฝึกกับสหรัฐฯ ได้เลย ผมจะบอกว่า จะฝึกกับประเทศไหนก็ไม่แปลก แต่ที่แปลก คือถูกบังคับให้เปลี่ยนเครื่องแบบ และติดอาร์มกองทัพจีนรวมถึงป้ายชื่อ ส่วนเราก็เคยไปฝึกกับสหรัฐฯ และจีน ก็ไม่เคยถูกสั่งให้เปลี่ยนเครื่องแบบกับป้ายชื่อนะครับ
ขอบคุณภาพจาก : Facebook Army Military Force