วันนี้ (18 ธ.ค. 68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายนา ชาวเมียนมา อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจันทบุรี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่ง การตายโดยไม่มีเหตุอันควร และ ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้ เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ ส่วนของศพ อัฐิหรือเถ้าของศพ”
โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ (4 ธ.ค. 68) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตร. สภ.นายายอาม จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุสะเทือนขวัญ พบศพชาย นิรนาม ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม สภาพศพถูก มัดมือ มัดเท้า ห่อร่างด้วยผ้า ก่อนยัดใส่ถังน้ำสีดำ แล้วนำไปทิ้งอำพรางไว้บริเวณกอไผ่ริมถนนในพื้นที่ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี จากสภาพศพชี้ชัดถึงความตั้งใจปิดบังอำพรางคดีอย่างเป็นระบบ
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 2 ได้เร่งคลี่คลายคดีอย่างต่อเนื่อง ใช้ทั้งพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จนสามารถ พิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิดได้ในที่สุด พนักงานสอบสวน สภ.นายายอาม จึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดจันทบุรี และศาลได้อนุมัติ หมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 3 ราย
โดยหนึ่งในนั้นคือ นายนา อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายโดยไม่มีเหตุอันควร รวมถึงทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย หรือทำให้ศพเสื่อมค่าและไร้ประโยชน์”
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ติดตามไล่ล่าผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งวันที่ (17 ธ.ค. 68) เวลาประมาณ 08.40 น. มีรายงานเบาะแสสำคัญว่า พบความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหารายหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงได้ประสานข้อมูลกับตำรวจทางหลวง และวางแผนระดมกำลัง เข้าปิดล้อม และสกัดจับอย่างเร่งด่วน
เมื่อพบตัวและตรวจสอบยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ พร้อมแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาดูและอ่านจนเข้าใจ ก่อนควบคุมตัวโดยสงบจากนั้นนำตัวผู้ต้องหาไปจัดทำ บันทึกการจับกุม ณ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงศรีสำราญ และส่งตัวให้ พนักงานสอบสวน สภ.นายายอาม จังหวัดจันทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่าตนเป็นบุคคลเดียวกันกับหมายจับนี้จริง
แต่ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เร่งรวบรวมหลักฐานและตามล่าตัวผู้ร่วมขบวนการตามหมายจับต่อไป