สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นวันแรก

View icon 74
วันที่ 18 ธ.ค. 2568 | 19.43 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 10.27 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยังอาคารศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมืองฯ จังหวัดขอนแก่น ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567 เป็นวันแรก

โดยสภามหาวิทยาลัยฯ มีมติทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ วิทยาวิทยาศาสตร์การเกษตรและสิ่งแวดล้อม แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยทรงเป็นแรงบันดาลใจแก่บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เกษตรกรรม และสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ ในการนี้ พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน, รางวัลพระธาตุพนมทองคำ 1 คน, รางวัลศรีมอดินแดง ประเภทบุคลากรวิชาการและบุคลากรสนับสนุน 2 คน และรางวัลศรีกาลพฤกษ์ 1 คน มีผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ประกาศนียบัตรชั้นสูง และปริญญาเอก เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย รวม 3,505 คน

ในการนี้ พระราชทานพระราโชวาท ความว่า "ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย นับว่าเป็นผู้มีปัญญา คือมีความรอบรู้ ความฉลาด อันเกิดจากการเล่าเรียนและการคิดพิจารณา จึงได้รับยกย่องว่าเป็นบัณฑิต ต่อจากนี้ แต่ละคนคงจะได้นำความรู้ความฉลาด ที่ได้สร้างสมอบรมจากสถานศึกษาไปใช้ในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน สร้างตัวสร้างฐานะให้ก้าวหน้ามั่นคง การจะทำให้ได้ดังที่กล่าวนั้น บัณฑิตพึงระลึกไว้เสมอว่า แม้จะสำเร็จการศึกษาในระดับสูงแล้วก็ตาม แต่มิได้หมายความว่าจะหยุดการเรียนรู้ไว้เพียงเท่านี้ได้ จำเป็นที่ทุกคนจะต้องใส่ใจศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และหมั่นพัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้มีความรู้ความฉลาดมากยิ่งขึ้นตลอดเวลา ความรู้ความฉลาดดังกล่าว มิใช่เพียงความรู้ในวิชาการ หรือความรู้เท่าทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความฉลาดรู้แจ้งชัดในเหตุผล และความรู้ผิดชอบชั่วดี รู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดควรละเว้นด้วย หากบัณฑิตฝึกฝนอบรมความรู้ความฉลาดได้ดังนี้ ก็จะเป็นผู้มีปัญญาที่แท้จริง สามารถใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงานให้ผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาทั้งปวง และบรรลุถึงความเจริญมั่นคงได้ แต่ละคนก็จะประสบความสำเร็จในการสร้างตัวสร้างฐานะ เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า ที่จะช่วยให้สังคมและชาติบ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้า มีวัฒนธรรม และมีความยั่งยืนเป็นที่อยู่อาศัยอันวัฒนาผาสุกของเราทุกคนได้สืบไป“

หลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ได้พระราชทานถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดละครเยาวชนสร้างสรรค์แก่นอีสานวัฒน์ ครั้งที่ 7 ทีมละครโรงเรียนตาลสุมพัฒนา จังหวัดอุบลราชธานี, ผู้ชนะเลิศการประกวดดนตรีลูกทุ่งระดับมัธยมศึกษาดาวรุ่งลูกทุ่งมอดินแดง ประจำปี 2568 และผู้ชนะเลิศการประกวดดนตรีไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปีการศึกษา 2567 ครั้งที่ 23 และประจำปีการศึกษา 2568 ครั้งที่ 24

ข่าวอื่นในหมวด