สนามข่าว 7 สี - เข้าสู่วันที่ 12 กับสถานการณ์ชายแดนบ้านเรา เมื่อวานนี้เครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทย เปิดฉากโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิดใส่ตำแหน่งฐานปฏิบัติการทางการทหารกัมพูชา ฝั่งปอยเปต
F-16 ทิ้งระเบิดคลังอาวุธกัมพูชา ฝั่งปอยเปต
เป็นภาพเครื่องบิน F-16 กองทัพอากาศไทย เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิดใส่ตำแหน่งฐานปฏิบัติการทางทหาร และคลังอาวุธของกัมพูชา ฝั่งปอยเปต ตรงข้ามฝั่งสะพานหนองเอี่ยน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
ส่วนอีกจุดในพื้นที่ อำเภอศรีโสภณ จังหวัดบันเตียเมียนเจย โดยเครื่องบิน F-16 ล็อกตรงเป้า ทิ้งระเบิดได้อย่างแม่นยำ ทำให้มีกลุ่มควันดำพวยพุ่งลอยขึ้นท้องฟ้า มองเห็นได้จากระยะไกล
ทอ.แจงโจมตีคลังเก็บอาวุธ-จรวด BM-21 "กัมพูชา"
พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงว่า เป้าหมายที่กองทัพอากาศเข้าปฏิบัติการ เป็นคลังเก็บอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา และยืนยันว่าไม่พบพลเรือนอาศัยอยู่ จึงตัดสินใจโจมตีเป้าหมาย
กองทัพอากาศ ขอย้ำว่า การปฏิบัติการทางทหารของไทย มุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น พร้อมแยกแยะอย่างชัดเจน ระหว่างเป้าหมายทางทหาร กับเป้าหมายพลเรือน
คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในช่องทาง Telegram ของกัมพูชา แสดงให้เห็นแก๊งสแกมเมอร์ชาวจีน ปีนเสาเพื่อชักธงชาติจีนขึ้นเหนือที่พักอาศัย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่ส่งถึงกองทัพอากาศไทย (RTAF) ส่งสัญญาณว่าชาวจีนอาศัยอยู่ และเรียกร้องให้ยุติการโจมตีทางอากาศ เหตุเกิดขณะเครื่องบินรบ F-16 ไทย โจมตีฐานปฏิบัติการทางทหารกัมพูชาในปอยเปต ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้
ตามต่อกรณีกัมพูชายิงจรวด BM-21 ตกกลางไร่อ้อย ทำให้ไฟไหม้ลุกลามแปลงอ้อย เสียหายมากกว่า 1,000 ไร่ ทำให้เจ้าของไร่อ้อยแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะกู้เงินมาลงทุน
เบื้องต้นเจ้าของไร่อ้อยหลายคน เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.โคกสูง และหวังอยากให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ ชาวไร่อ้อยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนครั้งนี้ด้วย
กัมพูชาอ้างโดรนทหารไทยตกในชุมชน
เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ที่ผ่านมา ทางเพจ Army Military Force โพสต์คลิประบุว่า "ทหารกัมพูชาปล่อยคลิปอ้างว่า สามารถสอยโดรนตรวจการณ์รุ่น Dominator XP ของกองทัพอากาศไทย ตกในพื้นที่จุดดินใหม่ (มณฑล 9) แขวงตลาดกลาง เมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ด้วยระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบประทับบ่า (MANPADS) รุ่น QW-3 ของจีน"
ขณะนี้ทางกองทัพอากาศไทย ยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ ว่ามีการสูญเสียอากาศยานไร้คนขับในภารกิจดังกล่าวจริงหรือไม่ ตามที่ฝั่งกัมพูชากล่าวอ้าง ควรรอคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากกองทัพอากาศ
ล่าสุด เพจ Military Weapons อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่มีความเชี่ยวชาญด้านยุทโธปกรณ์ ออกมาให้ข้อมูลระบุว่า "จากการวิเคราะห์ภาพซากอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ที่ปรากฏคือ อากาศยานไร้คนขับแบบ DP-20 ของกองทัพบกไทย ไม่ใช่อากาศยานไร้คนขับแบบ Dominator XP ตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด"
ส่วนชายแดนจังหวัดตราด จากการเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านสามหลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยพบคลังและทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถูกดัดแปลงจากทุ่นระเบิดดักรถถัง จำนวน 16 ลูก ที่พร้อมใช้งาน มีลักษณะจงใจสร้างอันตรายโดยไม่เลือกเป้าหมาย และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อทั้งกำลังพลและพลเรือน
นอกจากนี้ยังพบเอกสารทางทหารของฝ่ายกัมพูชา เป็นการจดบันทึกข้อมูลของผู้เข้ารับการฝึกใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN-2 มีเนื้อหาถึงลักษณะทั่วไปของทุ่นระเบิด การวาง และการเก็บกู้ ซึ่งมีการระบุวันที่จัดการสอน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567
ประเด็นนี้ทาง พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เผยว่า เอกสารดังกล่าวถือเป็นพยานหลักฐานที่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชามีการอบรม ให้ทหารกัมพูชาใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 อย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง มิใช่การกระทำโดยบังเอิญ หรือเฉพาะหน้า และสะท้อนถึงเจตนาในการใช้สงครามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ต่อฝ่ายไทย ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง โดยขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศหลายประการ อาทิ อนุสัญญาออตตาวา ค.ศ.1997 ซึ่งกำหนดห้ามการใช้ ผลิต หรือครอบครองทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
กองทัพเรือขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยทันที