เวลา 09.00 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยังอาคารศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมืองฯ จังหวัดขอนแก่น ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปีการศึกษา 2567 เป็นวันที่ 2 มีผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ประกาศนียบัตรชั้นสูง และปริญญาเอก ประจำปีการศึกษา 2567 เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย รวม 3,436 คน
ปี 2568 มหาวิทยาลัยขอนแก่น ครบ 62 ปีแห่งการสถาปนา มุ่งมั่นดำเนินพันธกิจตามวิสัยทัศน์ "มหาวิทยาลัยวิจัยและพัฒนาชั้นนำระดับโลก" ได้รับการยกย่องให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกลุ่มพัฒนาวิจัยระดับแนวหน้าของโลก โดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องบนเวทีนานาชาติด้านการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งมั่นสู่การเป็น "Green University-KKU Smart City-Carbon Neutrality" ยกระดับสภาพแวดล้อมการเรียนรู้และการใช้ชีวิตที่ปลอดภัย น่าอยู่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ วิจัย และบริการวิชาการยุคใหม่ และมุ่งสู่การเป็น "ศูนย์กลางด้านการวิจัยและนวัตกรรมการศึกษา" ของภูมิภาคและประชาคมอาเซียน และ "ศูนย์กลางการแพทย์และการแก้ปัญหาสุขภาพภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" พัฒนานวัตกรรมเชื่อมโยงผลลัพธ์สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับค่านิยม "Social Devotion" ของมหาวิทยาลัยฯ และสืบสานพระราชปณิธานในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
หลังเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ทรงพระดำเนินไปยังห้องโถง พระราชทานพระราชวโรกาสให้ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก อาทิ ผ้าไหมพื้นเมือง, บัญชีผู้ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อการศึกษา KKU IntelSphere จำนวน 1,000 บัญชี และกระเป๋าหนังชีวภาพจากเศษวัสดุเหลือใช้ในอุตสาหกรรมมะม่วงแปรรูป
เวลา 13.20 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดป่าพุทธญาณรังษี อำเภอเมืองฯ จังหวัดขอนแก่น ทรงตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถ และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงในผอบทองคำ เพื่อประดิษฐานบนเศียร "พระพุทธญาณรังษีตรีโลกนาถ" พระประธาน ประจำอุโบสถ วัดแห่งนี้ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2558 มีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถวายที่ดินสร้างวัด จัดทอดผ้าป่าและทอดกฐินซื้อที่ดินเพิ่มเติม โดยจัดตั้งเป็นวัดเมื่อปี 2562 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
สำหรับอุโบสถ ก่อสร้างเมื่อปี 2561 แล้วเสร็จเมื่อปี 2562 ได้รับความอุปถัมภ์หลักจาก นายเอลเมอร์ ทิบเบ็ตส์ จูเนียร์ และนางธนพร เกิดมณี ตลอดจนพุทธศาสนิกชน และศิษยานุศิษย์วัดป่าพุทธญาณรังษี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญพระนามาภิไธย ส.ธ. ประดิษฐานที่หน้าบันอุโบสถ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564
นอกจากการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแล้ว ยังได้ทำงานด้านสาธารณะสงเคราะห์ และพระพุทธศาสนา เช่น อุปถัมภ์สร้างอาคารฟอกไตและอาคารอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน โรงพยาบาลนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์, มอบถุงยังชีพพระสงฆ์อาพาธ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ยากไร้, มอบทุนการศึกษาพระสงฆ์ สามเณร นักเรียนยากจน, สร้างบ้านให้ผู้ยากไร้ บริจาคเครื่องมือแพทย์, สร้างเมรุ บริจาคโลงศพผู้ยากไร้, บริจาคสิ่งของและเงินให้หน่วยราชการ วัด และชุมชน ปัจจุบัน มีพระสงฆ์จำพรรษา 4 รูป มีพระมหาพันธวัฒน์ ธัมมะวัดฆะโน เป็นเจ้าอาวาส
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังศาลาการเปรียญ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ผู้มีจิตศรัทธา เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินสมทบทุนก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน โรงพยาบาลนาคู แล้วพระราชทานเงินแก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น "กลุ่มวิสาหกิจชุมชนจักสาน สานฝัน ภูไทสงเปลือย" ซึ่งเป็นสมาชิกศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพกุดสิมคุ้มเก่า อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่นำไผ่ไร่ มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จักสานส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้เสริม, และ "ศูนย์เรียนรู้ 19 พอเพียง" เป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนด้านการบำบัดน้ำเสีย และการปลูกพืชผักสวนครัว ที่จัดตั้งบนพื้นที่สาธารณประโยชน์ในตำบลพระลับ จังหวัดขอนแก่น มีสมาชิกเป็นคนในชุมชนทั้ง 19 หมู่บ้าน