รวบสาวหล่อ ชวนเข้ากลุ่มไลน์ลงทุน และเป็นกรรมการ บริษัท หลอกให้โอนเงิน รวม 19 ครั้ง จำนวน 10 ล้าน กว่าบาท

รวบสาวหล่อ ชวนเข้ากลุ่มไลน์ลงทุน และเป็นกรรมการ บริษัท หลอกให้โอนเงิน รวม 19 ครั้ง จำนวน 10 ล้าน กว่าบาท

View icon 99
วันที่ 20 ธ.ค. 2568 | 10.22 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (20 ธ.ค. 68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวกาญจนา อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 6961/2568 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยเป็นการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน

โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ (6 มี.ค. 68) นางสาวอยู่ดี ผู้กล่าวหา ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. ว่า ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย กรณีเมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2567 สนใจเรียนรู้เรื่องลงทุนหุ้น พบเพจเฟซบุ๊ก และได้เข้าร่วมกลุ่มไลน์ “Trade DEE 22” มีบัญชีไลน์ชื่อ ทิวา ได้ติดต่อมาเรื่องการลงทุน แนะนำเทคนิคการลงทุน

ต่อมาจึงได้รับลิงค์ลงทะเบียนเปิดพอร์ตลงทุนหุ้น ชื่อแพลตฟอร์มหนึ่ง จากนั้นได้โอนเงินไปลงทุนโดยโอนเงินจากบัญชีธนาคารของตนเอง ไปยังบัญชีธนาคารของคนร้ายหลายบัญชี โอนจำนวน 19 ครั้ง รวมเป็นเงิน 10,521,000 บาท  แต่ไม่สามารถถอนเงินลงทุนออกจากแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงให้ลงทุนจากกลุ่มของผู้ต้องหา รวม 43 ราย ได้รับความเสียหาย โดยก่อนหน้านี้ได้จับผู้ต้องหาได้แล้ว จำนวน 7 ราย

ต่อมาวันที่ (16 ธ.ค.68) กก.5 บก.ป. ได้จับกุม น.ส.กาญจนา กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งรับโอนเงินจากผู้เสียหายที่โอนเงิน ครั้งที่ 16, 17 และ 18 เข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชีบริษัทดังกล่าว

เมื่อวันที่ (26 ก.พ. 68) เวลาประมาณ 13.53 น. จำนวน 500,000 บาท และได้มีการโอนเงินต่อไปยังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.ว้านไพร จำนวน 1,500,000 บาท,

เมื่อวันที่ (26 ก.พ. 68) เวลาประมาณ 13.51 น. รับโอนเงินผู้เสียหายเข้าบัญชีธนาคารดังกล่าว จำนวน 500,000 บาท ได้มีการโอนเงินต่อไปยัง บัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.วาสนา จำนวน 1,000,000 บาท

เมื่อวันที่ (26 ก.พ. 68) เวลาประมาณ 14.35 น. รับโอนเงินผู้เสียหาย จำนวน 1,440,000 บาท ได้มีการโอนเงินต่อไปยังบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.วาสนา จำนวน 1,440,000 บาท

พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาไปยังภูมิลำเนาของนางสาวกาญจนาฯ แต่ไม่ได้มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง ศาลอาญาจึงอนุมัติหมายจับที่ 6961/2568 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568

ต่อมาผู้เสียหาย จึงได้เดินทางมาแจ้งความมร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากากรรมทางเทคโนโลยี ดำเนินคดีกับคนร้ายให้รับโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด 

ก่อนทำการจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนหาข่าวประกอบกับได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับ ว่า น.ส.กาญจนา ได้หลบหนีมาพักอาศัยตามสถานที่ดังกล่าว จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้เดินทางไปตรวจสอบตามสถานที่ที่ได้รับแจ้ง เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณสถานที่จับกุมได้พบหญิงชาวไทยซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับข้างต้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวและได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจนทราบว่าคือ น.ส.กาญจนา ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้ดูโดยอ่านให้ฟังและให้อ่านด้วยตนเองจนเป็นที่พอใจแล้ว ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวข้างต้นจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงแจ้งให้ น.ส.กาญจนา ทราบว่าจะต้องถูกจับ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับดังกล่าว และแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบ

จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาจัดทำบันทึกการจับกุม ที่ กก.5 บก.ป. ก่อนนำตัว ส่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง