ห้องข่าวภาคเที่ยง - เช้านี้ที่ชายแดนฝั่งจังหวัดสุรินทร์ ทหารไทยยังคงระดมยิงปืนใหญ่เพื่อกดดันและสกัดกั้นการรวมกำลังของทหารกัมพูชาที่พยายามประชิดชายแดน
เมื่อช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 05.30 น. ทหารไทยได้ยิงปืนใหญ่ตอบโต้ทหารกัมพูชาหลายชุดต่อเนื่อง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ที่แนวชายแดนปราสาทตาควาย เนิน 350 ช่องกร่าง และปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสกัดกั้นทหารกัมพูชาเข้ามาประชิดชายแดน ต่อมาทหารกัมพูชา ได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาใส่ทหารไทย 3 ชุด รวม 120 ลูก ในช่วงเวลา 07.45 น. 08.25 น. และชุดที่ 3 เวลา 09.00 น. กระสุนตกบริเวณปราสาทตาเมือนธม
จากนั้นได้ใช้ปืน ค ยิงเข้ามาเป็นระยะ ๆ สลับเสียงปืนใหญ่ไทยที่ยิงเข้าสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง หลังจากตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทหารไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา ที่พยายามเสริมกำลังพล และอาวุธหนักเข้ามาประชิดชายแดนจำนวนมาก เพื่อยึดคืนจุดยุทธศาสตร์ชายแดนที่ทหารไทยยึดกลับคืนได้ทั้งหมด ทั้งชายแดนปราสาทตาควาย เนิน 350 ช่องกร่าง และปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก และยังคงมีเสียงปืนใหญ่ดังเป็นระยะ ๆ ในขณะนี้
จากข้อมูลของผู้นำชุมชน บอกว่า ช่วงค่ำวานนี้และช่วงกลางคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงค่ำ เวลา 18.00 น. ฝั่งไทยได้พบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารฝั่งกัมพูชาที่พยายามจะเข้ามาประชิดชายแดน บริเวณด้านปราสาทตาเมือนธม ทหารไทยจึงได้มีการระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่เพื่อเป็นการกดดันแนวรบกองกำลังทหารกัมพูชาที่จะเข้ามา มองเห็นดวงไฟของลูกกระสุนปืนใหญ่มุ่งหน้าไปทางปราสาทตาเมือนธมอย่างชัดเจน จนถึงเวลา 18.30 น. เสียงปืนใหญ่ฝั่งไทยจึงเงียบเสียงลง
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยง ได้มีการนำผ้ามาคลุมหลอดไฟส่องสว่างโซล่าเซลล์นอกบ้าน เพื่อพรางแสงให้เหลือน้อยที่สุด ป้องกันตกเป็นเป้าโดรนพลีชีพของกัมพูชา นอกจากนี้ในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก พบว่าได้มีการปิดไฟส่องสว่างบนถนนตามหมู่บ้าน และถนนสายหลัก 224 ตลอดเส้น ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่เป็นไปอย่างตึงเครียด และต้องมีการเฝ้าระวังตลอดเวลา