อุดมการณ์ต่างกัน อนุทิน ย้ำจุดยืนภูมิใจไทย ไม่ร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาชน เหตุไม่หยุดแก้ ม.112
วันนี้ (25 ธ.ค.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวผ่านการดีเบตผ่านรายการทีวีเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา จะไม่ขาน ชื่อนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีอีก ถือเป็นการปิดโอกาสที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ว่า ก็เป็นสิทธิของเขา ตนเคารพสิทธิและความเห็นของทุกคน และพรรคภูมิใจไทยมีความชัดเจนมาตลอด ไม่ร่วมจัดตั้ง รัฐบาลกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ตนได้ติดตามชมรายการดีเบต ทราบว่า หัวหน้าพรรคประชาชนเป็นคนเดียวบนเวทีที่ยังยืนยันว่า ต้องแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถ้ายังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้ พรรคภูมิใจไทย ไม่ร่วมด้วยแน่นอน พรรคไหนจะร่วม ก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรค แต่เท่าที่ดูแคนดิเดตของทุกพรรค ไม่มีพรรคไหนตอบว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ยกเว้นพรรคประชาชน
เมื่อถามว่า ต่อไปนี้จะไม่คุยกับพรรคประชาชนอีกแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องการทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน พรรคภูมิใจไทยพูดคุยและทำงานร่วมกันได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สร้างความแตกแยกให้ประชาชน เช่น แก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 คงคุยกันไม่ได้ เพราะอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน เว้นแต่พรรคประชาชน จะพูดชัดเจนว่าไม่มีนโยบายแก้ไข ม. 112 แล้ว ก็น่าจะทำงานด้วยกันได้
เมื่อถามว่า นายณัฐพงษ์ พูดว่า ไม่ควรมีใครต้องติดคุก เพราะคำพูด นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเห็นต่างและคิดว่าไม่ควรสร้างหลักคิด และความเชื่อแบบนี้ให้กับประชาชน นักการเมืองทุกคนต้องแนะนำ ต้องสร้างค่านิยมให้คนในสังคมเคารพกฎหมาย และไม่ทำผิดกฎหมาย ควรจะต้องพูดว่าไม่ควรมีใครต้องติดคุก เพราะไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ถ้าทำผิดกฎหมาย ต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด จะมีสิทธิเสรีภาพมากแค่ไหน ก็ต้องไม่ละเมิดกฎหมาย และไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการพูดที่เป็นการอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ เสียหายยิ่งต้องได้รับโทษ โดยไม่มีข้อยกเว้น