รวบแล้ว “ต๊อก” มือยิงต่อสู้ตำรวจขณะเข้าจับกุมย่านคลองเคย ตำรวจบาดเจ็บ เด็กหญิง 2 คน ถูกกระสุนลูกหลงเจ็บอีก 2 คน จนมุมคาโรงแรมใน จ.สมุทรปราการ อ้างแค่ยิงป้องกันตัวเพื่อหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ ได้ขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติออกหมายจับ นายบุรินทร์ แก้วอบเชย หรือ ต๊อก อายุ 46 ปี จากการก่อเหตุยิง ร.ต.ต.ไพบูลย์ ชนูนันท์ รอง สว.(ป.) สน.ท่าเรือ ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่เข้าจับกุมนายบุรินทร์เมื่อคืนวันที่ 24 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา ที่ชุมชนล็อค 4-5-6 คลองเตย จนเกิดการยิงปะทะ ส่งผลให้เด็กหญิง 2 คน ถูกลูกหลงจากกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาช่วงค่ำวันที่ 25 ธ.ค. 68 ตำรวจสืบนครบาล IDMB ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบช.ช่วยราชการ บช.น. สั่งการให้ทีมสืบสวน นำโดย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. ระดมกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้สำเร็จ โดยถูกจับกุมได้ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวน โดย นายบุรินทร์ เดินกระเผลก เนื่องจากได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ขาซ้าย ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม แต่ผู้ต้องหานิ่งเงียบไม่ตอบคำถามใด ๆ
ด้าน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เปิดเผยหลังเข้าซักถามผู้ต้องหาว่า เบื้องต้น นายบุรินทร์ หรือ ต๊อก ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทั้งหมายจับในคดียิงต่อสู้ตำรวจ และหมายจับคดีพยายามฆ่าเพื่อนบ้าน และสามารถให้การได้ตามปกติ ไม่ได้มีอาการป่วยจิตเวชแต่อย่างใด ซึ่งเหตุการณ์ยิงต่อสู้ตำรวจ ผู้ต้องหารับว่า จะออกไปซื้อข้าวให้แม่ แต่บังเอิญเห็นตำรวจจึงใช้อาวุธปืนยิงเพื่อเปิดทางหนีในทันที และระหว่างการหลบหนีก็อ้างว่าทำปืนลั่น 2 นัด โดยอ้างว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัว ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนี
สำหรับอาวุธปืน ผู้ต้องหายอมรับว่าพกติดตัวตลอดเวลา หลังจากมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้านเมื่อช่วงเดือน เม.ย. 68 ที่ผ่านมา และทราบว่าตัวเองมีหมายจับ จึงพกอาวุธปืนติดตัวไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น โดยหลังก่อเหตุ ได้ว่าจ้างรถตุ๊กตุ๊กจากหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพระรามที่ 4 ไปส่งที่บ้านญาติฝั่งพ่อ ซึ่งอยู่ย่านบางปู จ.สมุทรปราการ โดยอ้างกับญาติว่าทะเลาะกับเพื่อนบ้านจะขอมาอยู่ชั่วคราว แต่ทางญาติไม่สบายใจที่จะให้อยู่ด้วย จึงให้พักกินข้าว แล้วเรียก Grab ให้ไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลังดังกล่าวประมาณ 15 กิโลเมตร โดยที่ญาติไม่มีใครทราบเรื่อง ว่าผู้ต้องหาไปก่อเหตุดังกล่าวมาก่อน
ในส่วนเยาวชนหญิงที่ถูกลูกหลงจำนวน 2 คน ตอนนี้อยู่ระหว่างการผ่าหัวกระสุนเพื่อนำไปพิสูจน์ตรวจสอบ ว่าถูกตำรวจหรือคนร้ายยิง ซึ่งตนได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจและชาวบ้าน ทั้งหมดก็มีกำลังใจที่ดี สามารถพูดคุยตอบโต้ได้ตามปกติ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยวันที่ 26 ธ.ค. 68 นี้ ตลอดทั้งวันพนักงานสอบสวนจะมีการสอบปากคำ โดยจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังในวันที่ 27 ธ.ค. 68 ทั้งสองสำนวนคดี