เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้ ทหารไทย ต้องเสียขาเป็นนายที่ 9 แล้ว ขณะเข้าเคลียร์พื้นที่ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์
กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า เวลา 14.20 น. มีกำลังพลเหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 ขณะปฏิบัติภารกิจใกล้กับปราสาทตาควาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาซ้ายขาด 1 นาย ชื่อ สิบเอก นิติธรรม ศรีคำแซง ชุดทหารช่าง สังกัด พัน.ร.22
อีก 1 นาย คือ จ่าสิบเอก อำนาจ ทัศสมบัติ มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อจากแรงอัดทั้ง 2 นาย ถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพนมดงรัก
ก่อนเกิดเหตุเพียงวันเดียว เพจเฟซบุ๊กของ สิบเอก นิติธรรม เพิ่งโพสต์ภาพการไปร่วมส่งดวงวิญญาณของ "จ่าเริง" หรือ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน วีรบุรุษ เนิน 350" พร้อมข้อความ
"ผมมาส่งเป็นครั้งสุดท้ายนะครับพี่ชาย ไว้มากอดคอหอมแก้มผมใหม่นะ ผมขอให้พี่ ไปสู่ภพภูมิที่ดีนะครับพี่เริง จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน การเดินทางครั้งนี้ เดินทางไกลเลยนะพี่ พวกเราทำสำเร็จแล้วนะพี่ ปักธงได้แล้ว พี่มันนักรบตัวจริง ยอมแลก ไม่ยอมถอย พี่ทำเพื่อพวกเราทุกคนประเทศไทย พี่จะอยู่ในใจผมเสมอนะ...พี่เริง #ซีซุยนักรบผู้ทรงเกียรติแห่ง เนิน 350"
ส่วนพ่อ-แม่ สิบเอก นิติธรรม ที่อยู่บ้านดอนหวาย ตำบลโนนชัยศรี อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับข่าวหลังลูกชายเหยียบทุ่นระเบิดเพียงไม่กี่นาที แม้จะรู้อยู่ก่อนแล้วว่า ศึกนี้เสี่ยงอันตราย แต่ก็ไม่คิดว่า จะโดนกับลูกชาย ทุกครั้ง ที่ลูกลงสนาม จะคอยให้สติอยู่เสมอ เพราะกัมพูชา ไว้ใจไม่ได้
เมื่อคืน ประมาณ 22.00 น. พันโท สมพร ศรีคำแซง พ่อสิบเอก นิติธรรม โพสต์ภาพและข้อความ "ขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่เป็นห่วงนะครับ อาจจะยังติดต่อได้ลำบากนิดนึง ตอนนี้น้องปลอดภัยและมีกำลังใจเข้มแข็งที่ดีมากครับ"
การเยียวยาเบื้องต้น กองทัพ จะดูแลค่ารักษาพยาบาล การฟื้นฟูสมรรถภาพ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ และอาจรวมถึงเงินช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม ตามหลักการเยียวยาผู้เสียหายจากอาชญากรรม หรือการปฏิบัติหน้าที่
กรณีนี้ เนื่องจากเป็นทหารที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชายแดน การเยียวยาหลักจะมาจาก "กองทัพ" ก่อน แต่หลักการ "เยียวยาเหยื่ออาชญากรรมและผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมาย" ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎหมายเพิ่มเงินเยียวยา วงเงินสูงสุด 300,000 บาท อาจนำมาปรับใช้เพื่อเสริมการดูแลได้
หลักฐานชัด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่า ปฏิญญาสันติภาพ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ใช้ไม่ได้กับกัมพูชา เพราะหน่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิด พบการติดตั้งทุ่นสังหาร PMN-2 อีก 4 ทุ่น วางเรียงต่อเนื่องตามเส้นทางเคลื่นกำลังพล ห่างจากจุดที่สิบเอก นิติธรรม เหยียบ ประมาณ 30 เซนติเมตร
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กำลังให้รวบรวมข้อมูล หลักฐาน และรายละเอียดทั้งหมด ส่งมอบให้กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการทางการทูต และยกระดับการชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศในเวทีนานาชาติอย่างเป็นทางการต่อไป
สำหรับดาบตำรวจ อุดม อ้วนผุย ตำรวจ ตชด.22 ที่บาดเจ็บอย่างรุนแรง กะโหลกศีรษะเปิดบริเวณท้ายทอย จากถูกสะเก็ดระเบิดจรวด BM-21 ตกใส่ฐานปฏิบัติการต้นไทร บริเวณ "เขาพระวิหาร" และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปราสาท เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม และนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเข้ารับการผ่าตัด เปิดกะโหลกศีรษะ นำสะเก็ดออก แก้ไขเส้นเลือดในสมองที่เสียหาย ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
แม้จะผ่านมา 24 ชั่วโมงแล้ว แต่ดาบตำรวจ อุดม ยังไม่รู้สึกตัว และยังไม่พ้นขีดอันตราย ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
