เวลา 09.55 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอประชุมโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครนายก ทรงเป็นประธาน "งานรำลึกวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปิดโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยม 26 ธันวาคม 2452" ครบ 116 ปี
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานนามใหม่ว่า "โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า" และย้ายที่ตั้งโรงเรียนไปยังบริเวณเขาชะโงก อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครนายก โดยจัดการศึกษาพัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสมกับยุคสมัย เป็นสถาบันการศึกษาทางการทหารระดับอุดมศึกษาที่ผลิตนายทหารสัญญาบัตรหลักให้กับกองทัพบก รับใช้ประเทศชาติ ใช้เวลาในการศึกษา 5 ปี จัดการศึกษารวม 10 สาขาวิชา นอกจากการศึกษาหลักสูตรพื้นฐานแล้ว นักเรียนนายร้อยต้องเข้ารับการฝึกภาคสนามกับหน่วยทหาร และศูนย์การฝึกตามเหล่าสายวิทยาการต่าง ๆ รวมถึง ศึกษาดูงานนอกสถานที่ เพื่อให้เป็นผู้รอบรู้ มีประสบการณ์ทันโลก
ปัจจุบัน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการพิเศษ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ในปีการศึกษา 2568 ทรงสอน 4 วิชา คือ วิชาไทยศึกษา ชั้นปีที่ 2, วิชาประวัติศาสตร์จีน วิชาเลือกเสรี ชั้นปีที่ 4 และวิชาประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ชั้นปีที่ 5
ในการนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลโท อาจิณ ปัทมจิตร ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า นำนายทหารชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินสมทบกองทุนพัฒนาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า, สมุดบันทึกกองทัพบก, เงินรายได้จากการแข่งขันเดิน-วิ่ง เขาชะโงก ซูเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน ประจำปี 2568 และข้าวสารจากโรงสีข้าวพระราชทานโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จากนั้น พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้สนับสนุนกองทุนพัฒนาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
เวลา 12.58 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานโรงเรียนปิยชาติพัฒนา ในพระราชูปถัมภ์ ฯ ซึ่งตั้งขึ้นตามพระราชดำริ เมื่อปี 2532 เพื่อให้บุตรหลานข้าราชการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รวมทั้งบุตรหลานของประชาชนในตำบลใกล้เคียง มีสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา ปัจจุบัน มีนักเรียน 551 คน
ในการนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่สำเร็จการศึกษาอ่านบทอาเศียรวาทกราบถวายบังคมลา ในโอกาสสำเร็จการศึกษา
โอกาสนี้ พระราชพระราโชวาทเพื่อเป็นแนวทางในการปฎิบัติตน ทั้งเรื่องการศึกษาและการดำเนินชีวิต
จากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายบัตรถวายพระพรเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ และกราบบังคมทูลรายงานผลการศึกษา
แล้วทอดพระเนตรนิทรรศการการดำเนินงานของโรงเรียนที่สนองพระราชดำริปัจจุบันครบ 36 ปี อาทิ ด้านกีฬา ปีนี้ มีนักกีฬารักบี้ฟุตบอลเข้าร่วมแข่งขันในนามทีมชาติไทย 2 คน, กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ น้อมนำแนวพระราชดำริ เรื่องการทำรัดเกล้าจากกระดาษของวิชานาฎศิลป์ โดยนักเรียนและครูจากกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และศิลปะร่วมกันต่อยอดนำ Printer 3D มาทำรัดเกล้าทำให้ชิ้นงานสวยงามปราณีต คงทน เสร็จเร็วขึ้น ในอนาคตจะมีการวางจำหน่าย, นอกจากนี้ ได้รับพระราชทาน KidBright Micro AI เป็นอุปกรณ์สนับสนุนการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการสร้างโมเดลปัญญาประดิษฐ์ โดยนำไปต่อยอดทำโครงงาน เรื่อง ถังขยะยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อแยกขยะให้ถูกประเภท ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมคำสั่งคอมพิวเตอร์ ได้เครื่องคัดแยกขยะที่มีประสิทธิภาพ และประหยัดเวลาในการแยกขยะ, โครงการข้าวพระราชทาน "หุงข้าวเพื่อน้อง อิ่มท้องเรียนดี"โดยโรงเรียนจะนำข้าวมาหุงเตรียมไว้ให้กับนักเรียนที่มีฐานะยากจน ทั้งยังจัดสรรข้าวสารให้นำกลับไปรับประทานที่บ้านในโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง
