วันนี้ (27 ธ.ค. 68) ความหวังกลับมาอีกครั้ง สำหรับลูกกระทิงน้อยผู้โชคร้ายที่ถูกบ่วงสลิงรัดขาจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ (4 ธ.ค.68) ที่ผ่านมา หลังจากทีมสัตวแพทย์จาก 4 หน่วยงานร่วมมือกันอย่างเข้มข้น ล่าสุดพบว่าอาการดีขึ้นอย่างมาก แผลเริ่มหาย และกำลังเตรียมทำขาเทียมเพื่อให้น้องกระทิงสามารถเดินได้อีกครั้ง
นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เปิดเผยว่า ภารกิจช่วยชีวิตลูกกระทิงครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมระหว่างหน่วยงานต่างๆ ภายหลังที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ประสานขอความช่วยเหลือ ทีมสัตวแพทย์จากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ได้เข้าร่วมรักษาที่คลินิกปศุสัตว์และสัตว์ป่า อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทันที
ทีมสัตวแพทย์ผู้ปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ ประกอบด้วย นายสัตวแพทย์นราธิป วรวัฒนธรรม สัตวแพทย์ประจำส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี), นายสัตวแพทย์ปุญญพัฒน์ สารแขวีระกุล สัตวแพทย์ประจำส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา), นายสัตวแพทย์วัชรินทร์ หินอ่อน ผู้อำนวยการคลินิกปศุสัตว์และสัตว์ป่า โรงพยาบาลสัตว์ปากช่อง, นายสัตวแพทย์ณฐวุฒิ คณาติยานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงพรีเมียร์ พร้อมทีมเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน
ผลการรักษาน่าประทับใจ เมื่อทีมสัตวแพทย์ได้ทำการวางยาสลบเพื่อทำแผล พบว่าแผลบริเวณขาหน้าขวามีหนองน้อยลง ไม่พบเนื้อตาย มีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่มากขึ้น ส่วนแผลบริเวณขาหลังขวาที่เย็บไว้ไม่พบหนอง ปากแผลปิดสนิทดี และที่สำคัญ ทีมได้ใส่เผือกเพื่อเตรียมทำแบบสำหรับขาเทียม ซึ่งจะช่วยให้ลูกกระทิงสามารถยืนและเดินได้อีกครั้ง
นายยศวัฒน์ กล่าวว่า สิ่งที่น่าชื่นใจที่สุดคือ หลังการทำแผลเสร็จ ลูกกระทิงฟื้นตัวได้ดีมาก สามารถยืน 3 ขาได้ กินนมและหญ้าได้ตามปกติ การขับถ่ายก็เป็นปกติ แสดงให้เห็นว่าน้องมีพลังสู้ชีวิตที่เข้มแข็งมาก
ทางด้านนายสมฤกษ์ ศุภมิตรกฤษณา ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า ทีมสัตวแพทย์จะติดตามและประเมินอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป และจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
โดยภารกิจช่วยชีวิตลูกกระทิงครั้งนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมของทีมสัตวแพทย์และหน่วยงานต่างๆ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในการอนุรักษ์สัตว์ป่าไทย และการต่อสู้กับปัญหาบ่วงดักสัตว์ที่ยังคงเป็นภัยคุกคามสัตว์ป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
ที่มา : สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี)
