ห้องข่าวภาคเที่ยง - อีกไม่กี่นาทีจะครบ 48 ชั่วโมง ซึ่งก็คือ 2 ใน 3 ช่วงที่ไทย และกัมพูชา ลงนามหยุดยิงกันไว้ ในการประชุม GBC ก็เริ่มมีหลาย ๆ สัญญาณ ส่งออกมาจากฝั่งกัมพูชา ที่ไม่รู้ว่าต้องการสร้างความฮึกเหิม เลี้ยงกระแส หรืออยากจะสู้รบกับไทยเป็นรอบที่ 3 กันแน่
จริง ๆ แล้ว "กัมพูชา" ก็มีโหมดซึ้ง มีภาพความประทับใจ ไม่ต่างจากคนไทย เพราะจะคนไทย หรือคนกัมพูชา ต่างก็ไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบ ทุกคนรักชีวิต อยากกลับไปอยู่อย่างมีความสุขกับคนในครอบครัว
แต่ความเคลื่อนไหวหลาย ๆ อย่าง ในช่วงที่ผ่านมา ก็เริ่มมีสัญญาณบ่งบอกว่า กัมพูชาอาจไม่ได้อยู่เฉย ๆ ตามที่ได้ลงนามในข้อตกลงขนาดนั้น
ดูได้จากกระแสในโซเชียลฯ ที่ยังคุกรุ่น ที่อาจหมายถึงกระแสความต้องการของคนในชาติ ที่ส่วนหนึ่งยังเชื่อมั่นในทหาร และรัฐบาลกัมพูชา ว่าเหนือกว่าไทย ซึ่งก็ย้อนแย้งกับภาพความเสียหาย และการเรียกร้องให้ไทยรับผิดชอบ
นอกจากนี้ ก็มีคนตั้งข้อสังเกตเครื่องบินลำเลียงสินค้าทางอากาศ ของสายการบินเบลารุส บินเข้าสู่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มีการใช้เส้นทางการบิน ที่จงใจบินอ้อมน่านฟ้าไทย
และ "เบลารุส" เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของรัสเซีย จึงเกิดข้อสงสัยว่า สินค้าอะไรที่ต้องเร่งนำส่งกัมพูชาเป็นการเร่งด่วนขนาดนั้น
สอบถามเรื่องนี้กับ นายภวัต แอดมินเพจฯ Thaiarmforce.com ก็วิเคราะห์ว่า สิ่งที่กัมพูชานำเข้ามา น่าจะเป็นของที่มีขนาดเล็ก เพราะขนาดเครื่องบินลำเลียงสินค้า ไม่เหมาะกับการขนยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ ถ้าให้เดาที่ใกล้เคียงสุด ไม่ใช่กระสุน ก็น่าจะเป็นโดรน แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า สิ่งที่เห็นนั้นเป็นอาวุธ หรือไม่
ขณะที่ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โซเชียลฯ ไทย ก็พบมีรถบรรทุกต้องสงสัยหลายคัน และอากาศยานไร้คนขับ จากฝั่งกัมพูชา เคลื่อนไหวในพื้นที่ใกล้แนวชายแดน อันนี้ยังไม่แน่ชัดว่าต้องการส่งสัญญาณถึงอะไร หรือไม่
