เช้านี้ที่หมอชิต - การประชุมไตรภาคีที่จีน เมื่อวานนี้ บรรลุผลตามคาดหวัง แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เดินมาถูกทางแล้ว ย้ำจีนไม่ได้แทรกแซง แค่อำนวยความสะดวก
ในการกระชุมไตรภาคีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนและไทย กับกัมพูชา ที่เมืองอวี้ซี มณฑลยูนนาน ของจีน ในเมื่อวานนี้
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผย หลังการประชุมว่า ฝ่ายจีนไม่ได้เข้ามาแทรกแซง เพียงแค่อำนวยความสะดวกให้ไทย และกัมพูชาได้มาเจอกัน ตรงไหนที่จีนสนับสนุนได้ จีนก็สนับสนุน แต่มันก็ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่าย โดยที่ไทยก็ยืนยันมาตลอดว่า เรื่องความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ต้องแก้ไขระหว่างสองประเทศ แม้ว่าประเทศที่สาม จะมีความปรารถนาดีอย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้วก็เป็นเรื่องที่ทั้งสองประเทศต้องแก้ไขให้ได้
โดยไทยกับกัมพูชา มีข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ประเทศไทยก็ต้องการให้การหยุดยิงนั้นมีความยั่งยืน ความยั่งยืนในแง่ที่ไทยและกัมพูชาตกลงกันไว้ก็ปฏิบัติตามนั้น ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ ไม่มีการยั่วยุ โดยเฉพาะเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ถ้าหยุดยิง 72 ชั่วโมง ไม่มีปัญหาอะไร ก็จะเริ่มขบวนการมอบทหารกัมพูชา 18 คน ให้กับกัมพูชา จากนั้นก็ขอให้กัมพูชา พิจารณาเรื่องคนไทยติดค้างที่ปอยเปต ได้กลับบ้าน ส่วนการประชุม JBC คงเกิดขึ้นในไม่ช้า ก่อนเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ต่อไป แต่ทั้งสองฝ่ายต้องมีความจริงใจ
ขณะที่เมื่อวานนี้ เพจฯ เฟซบุ๊กของ "สมเด็จฯ ฮุน เซน" มีการเผยแพร่ แถลงการณ์สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการกิจการชายแดน มีเนื้อหาระบุถึงเรื่องการขอนัดประชุม ร่วมกับคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ของฝ่ายไทยแบบเร่งด่วน
เพื่อจะได้เร่งสำรวจ และปักปันเขตแดนให้ชัดเจนในเดือนมกราคม ปี 2569 ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ในเอกสารมีถ้อยคำที่ย้ำชัด ว่า "กัมพูชา" จะไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้กำลัง ไม่ว่าจะเป็นที่ บ้านจกเจย เปรยจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจย, จังหวัดพระตะบอง พื้นที่ทมอดา จังหวัดโพธิสัด รวมถึงจุดผ่านแดนอื่น ๆ นอกจากนี้ยังอ้างว่า คณะกรรมการ ยังยึดมั่นในจุดยืนเดิมที่จะปกป้องเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ พร้อมเคารพกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเต็มที่