ทนายดัง ชี้ ! เปิดเพลงยูทูปในร้านกาแฟ ร้านอาหาร ไม่ผิด ไม่ได้หากำไรโดยตรง

ทนายดัง ชี้ ! เปิดเพลงยูทูปในร้านกาแฟ ร้านอาหาร ไม่ผิด ไม่ได้หากำไรโดยตรง

View icon 12.3K
วันที่ 30 มิ.ย. 2559
News
แชร์
กลายเป็นกระแสที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือดในโลกออนไลน์ หลังจากที่เฟซบุ๊ก Add PhRae อ้างว่า ถูกเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ค่ายเพลงแห่งหนึ่งปรับ 2 หมื่นบาท เนื่องจากเปิดเพลงจากยูทูปภายในร้าน ระบุข้อความทั้งหมดว่า

"สวัสดีครับ ชาวแพร่ ทุกๆท่าน ผมเป็นเจ้าของร้านกาแฟนะครับ วันนี้ ผมโดนจับลิขสิทธิ์ เพลง โดนแจ้งความข้อหาเปิดเพลงฟังในร้าน โดนปรับไป 20,000 บาทครับ ผมเลยโพสต์ เตือนทุกๆ ท่าน ที่มีญาติ พี่น้อง เปิดร้านอาหาร ร้านทุกๆอย่าง ที่เป็นการบริการให้ลูกค้า อยากจะฝากบอกต่อ กดไลค์กดแชร์ ไม่อยากให้ใคร โดนเหมือนผม เพราะเสียดายเงินเสียดายทอง เลยเตือนบอกให้ทุกๆคนทราบนะครับ การที่เราเปิดเพลงในยูทูปผิดนะครับ ให้ทุกๆ คน ที่มีร้าน อย่า เปิดนะครับ ผมโดนคนเดียวเลยไม่อยากให้คนอื่นโดนเหมือนผม จึงเตือนกันมาด้วยความหวังดี ไม่อยากให้พวกเราๆโดนแบบนี้ ได้ง่ายๆ ครับ บอกต่อๆๆ กัน ไปนะ ครับ ร้านเหล้าร้านอาหารเหมือนกันนะครับ ระวัง จังหวัด เรานะครับผม ช่วงนี้ไม่ต้อง ฟังเพลงไทย ครับผม กดแชร์ เยอะๆๆๆ ครับ"

ทำให้เป็นที่ถกเถียงกันว่า จริงๆแล้ว การกระทำลักษณะนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ล่าสุด นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ้ค ระบุว่า

การเปิดเพลงให้ลูกค้าฟังในร้านกาแฟ/ร้านอาหารโดยไม่ได้เรียกเก็บค่าตอบแทนจากลูกค้าในการเปิดเพลง ไม่เป็นความผิด เพราะมิได้เป็นการหากำไร โดยตรงจากการละเมิดลิขสิทธิ์ ...แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาลก็ลงโทษไม่ได้

ฎีกาที่ 10579/2551
โจทก์บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ฯ มาตรา 31 โดยโจทก์บรรยายฟ้องเพียงแต่ว่าจำเลยเปิดแผ่นเอ็มพี 3 และซีดีเพลงให้ลูกค้าในร้านอาหารของจำเลยได้ร้องและฟังเพลงของผู้เสียหายจำนวน 1 เพลง เพียง "เพื่อประโยชน์ในทางการค้า" ขายอาหารและเครื่องดื่มของจำเลย ซึ่งความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวต้องเป็นการกระทำแก่งานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น "เพื่อหากำไร" เท่านั้นแต่ตามคำบรรยายฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำเพื่อหากำไรโดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าได้ร้องและฟังเพลง โดยเรียกเก็บค่าตอบแทนจากลูกค้าในการเปิดเพลงดังกล่าวหรือเรียกเก็บรวมไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยตามฟ้องจึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ฯ มาตรา 31 เพราะไม่ครบองค์ประกอบความผิดของบทมาตราดังกล่าวซึ่งต้องเป็นการกระทำเพื่อหากำไรโดยตรงจากการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นด้วย ดังนั้น แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ ทั้งนี้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ฯ มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 185

ฎีกาที่ 8220/2553
ความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ต้องเป็นการเผยแพร่งานนั้นต่อสาธารณชน "เพื่อหากำไร" ซึ่งหมายความว่า กำไรนั้นหากจำเลยได้มาหรือจะได้มาจะต้องเกิดจากการกระทำแก่งานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น แต่ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องมานั้นได้ความว่า จำเลยประกอบกิจการค้าขายอาหารตามสั่งและเครื่องดื่มจำเลยเปิดแผ่นวีซีดีเพลง "กำลังใจที่เธอไม่รู้" อันเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย ซึ่งได้มีผู้ทำขึ้นหรือดัดแปลงขึ้นให้ลูกค้าในร้านอาหารของจำเลยได้ฟัง ไม่ปรากฏว่าจำเลยเปิดเพลงดังกล่าวเพื่อหากำไรโดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าได้ฟังเพลงโดยการเรียกเก็บค่าตอบแทนจากลูกค้าในการเปิดเพลงดังกล่าว หรือเรียกเก็บเพิ่มรวมไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยตามฟ้องจึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 70 วรรคสอง เพราะไม่ครบองค์ประกอบความผิดของบทมาตราดังกล่าวซึ่งต้องเป็นการกระทำเพื่อหากำไรโดยตรงจากการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง

เรียบเรียงข้อมูลโดย CH7 Social News 
ขอบคุณข้อมูลและคลิปจาก เฟซบุ้ค เกิดผล แก้วเกิด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง