มหาวิทยาลัยรังสิต ประกาศยกเลิกสอบเข้าวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ หลังพบมีการใช้เครื่องมืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุจริตการสอบ ขณะที่รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการยืนยันจะสืบสาวถึงต้นตอขบวนการ เพื่อเอาผิดทางแพ่งและอาญา พร้อมคุมเข้มห้ามใส่นาฬิกา เครื่องประดับ และตรวจสอบแว่นตาก่อนเข้าสอบ
จากการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ประกาศยกเลิกการสอบเข้าศึกษาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ ที่เปิดสอบไปเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากพบการทุจริตเป็นกระบวนการ ด้วยเครื่องมือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยกลุ่มบุคคลที่รับจ้างกวดวิชาสอบเข้าและรับประกันผล ที่เรียกเงินค่าสอบเข้าวิทยาลัยแพทยศาสตร์ถึง 800,000 บาท
ในเรื่องนี้ ทีมข่าว 7 สี ได้สอบถามไปยังนายอาทิตย์แล้ว และได้รับคำตอบยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และให้ผู้สมัครสอบทั้งหมด มาสอบคัดเลือกใหม่ในวันที่ 31 พฤษภาคม และ 1 มิถุนายน ในเวลา สถานที่สอบ และห้องสอบเดิม
ด้าน นายนเรฏฐ์ พันธราธร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกว่า พบการโกงสอบเข้าวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ในช่วงบ่ายของการสอบวันแรก โดยอาจารย์คุมสอบวิชาคณิตศาสตร์ พบนักเรียนที่เข้าสอบใส่นาฬิกาข้อมือลักษณะเดียวกัน 3 คน จึงเข้าตรวจสอบ
ซึ่งนักเรียนทั้ง 3 คนยอมรับว่า โกงสอบจริง โดยจ่ายเงินมัดจำให้กับขบวนการโกงสอบไปคนละ 50,000 บาท และหากสอบติดจะต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ 800,000 บาท โดยติดต่อขบวนการนี้ จากประกาศคัตเอาต์ขนาดใหญ่หน้ามหาวิทยาลัย ที่รับติวพร้อมการันตี หากสอบไม่ติด ยินดีคืนเงิน
ส่วนวิธีการโกงสอบนั้น ให้นักศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง ที่รับจ้างสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ เข้ามานั่งสอบ แล้วใช้แว่นตาติดกล้องวิดีโอรูเข็มบันทึกภาพข้อสอบ ส่งอีเมลไปให้คนข้างนอก จากนั้นก็ให้ส่งคำตอบกลับมาทางนาฬิกาอัจฉริยะ หรือ Smart Watch ให้กับนักเรียนทั้ง 3 คนอีกที
ทั้งนี้ นักศึกษาที่มารับจ้างสอบ รับสารภาพว่า ได้ค่าจ้างจากการเข้าไปนั่งสอบ 5,000-6,000 บาท และทำหน้าที่เพียงส่งข้อสอบให้กับคนข้างนอก ที่เป็นแหล่งเฉลยเท่านั้น ล่าสุด มหาวิทยาลัยได้ส่งตัวนักศึกษาที่รับจ้างสอบให้ตำรวจดำเนินคดีแล้ว
สำหรับการลงโทษนักเรียนทั้ง 3 คนนั้น เบื้องต้นให้หมดสิทธิ์สอบเข้ามหาวิทยาลัยรังสิต ส่วนโทษทางอาญานั้นยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เพราะต้องการที่จะสืบสาวไปถึงต้นตอขบวนการโกงสอบ โดยจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ที่ทำให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียง และต้องจัดสอบใหม่
ส่วนมาตรการคุมเข้ม จะห้ามผู้เข้าสอบทุกคนใส่เครื่องประดับทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา สร้อยคอ รวมถึงปากกาด้วย โดยให้นำเข้าสอบได้เฉพาะดินสอ 2 บีเท่านั้น ส่วนแว่นตาจะมีการตรวจสอบโดยละเอียด หากพบตรงก้านมีลักษณะหนา สามารถใส่กล้องวิดีโอขนาดเล็กได้ จะไม่ให้ใส่เข้าห้องสอบเด็ดขาด
และทั้ง 3 คณะ มีผู้เข้าสอบทั้งหมดกว่า 3,000 คน แต่วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ รับนักศึกษาได้ 30 คน ส่วนทันตแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ รับได้คณะละ 50 คนเท่านั้น
