ตำรวจเมา หัวร้อน! โมโหพูดไม่เข้าหู ชักปืนกระหน่ำยิงรุ่นน้อง เสียชีวิต

View icon 241
วันที่ 4 ธ.ค. 2565 | 05.22 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - พอเหล้าเข้าปาก แล้วมักจะขาดสติกันอยู่เรื่อย ๆ เช่นเหตการณ์นี้ ตำรวจนายหนึ่งดื่มมาอย่างหนักจนเมา แล้วไปพบกับตำรวจรุ่นน้อง พูดจาไม่เข้าหู โมโหเลือดชักปืนขึ้นมารั่วยิงหลายนัด จนรุ่นน้องเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังตำรวจ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งว่ามีเกิดเหตุยิงกันขึ้น บริเวณริมฟุตบาทหน้าร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ภายในเขตเทศบาลนครยะลา อำเภอเมืองยะลา พบผู้บาดเจ็บเป็นชายอายุ 35 ปี นอนอยู่บริเวณริมทางเท้า ทราบภายหลังว่าผู้บาดเจ็บเป็นตำรวจ กองกํากับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 บ้านบุดี ยศสิบตำตรวจตรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าบริเวณศรีษะและลำตัวหลายนัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อช่วยชีวิต แต่สุดท้ายผู้บาดเจ็บทนพิษบาดเเผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยหลังเกิดเหตุ พันตำรวจเอกตรัยฤกษ์ ปัญญาไตรรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา สั่งการให้ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่เร่งติดตามผู้ก่อเหตุ จนสามารถควบคุมตัวดาบตำรวจ อายุ 44 ปี ตำรวจสังกัดกองกํากับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 บ้านบุดีเช่นเดียวกับผู้เสียชีวิต ซึ่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ขณะที่ผู้ก่อเหตุกำลังขับรถกระบะอยู่บริเวณด่านตรวจ ก่อนถึงห้าเเยกบ้านสะเตง ถนนสาย 15 ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา พร้อมอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มิลลิเมตร ประจำกายจำนวน 1 กระบอก
 
ผู้ก่อเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ในช่วงหัวค่ำ ได้ไปกินข้าว ที่ร้านอาหารย่านคุรุ ในเขตเทศบาลนครยะลา ขณะนั้นมีการดื่มสุราจนเกิดอาการมึนเมา ไม่ได้สติ หลังจากนั้นก็ได้ไปที่ร้านคาราโอเกะที่เกิดเหตุ และได้เจอกับผู้เสียชีวิต จนมีการโต้เถียง ทะเลาะวิวาทกัน ตนเองจึงใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกาย กระหน่ำยิง ไปยังผู้เสียชีวิต 4 ถึง 5 นัด จนล้มลม หลังก่อเหตุจึงได้ขับรถกระบะหลบหนีไปก่อนจะมาถูกจับได้

ในเวลาต่อมา ทีมข่าวลงสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ พบกับชายอายุ 53 ปี ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ว่า ตนเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด แต่ไม่รู้ว่าใครยิงใคร จึงเดินออกมาดู ก็พบว่ามีคนนอนอยู่ริมทางเท้าแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนเข้ามา ที่แรกตนเองเข้าใจว่าเป็นการยิงปืนขึ้นฟ้า ไม่รู้ว่ายิงกัน เพราะบริเวณนี้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกันเป็นประจำ พอเดินมาดูเห็นนอนอยู่ก็เดินกลับไปเลย หลังจากออกมาดูแล้ว ตนเองก็วิ่งเข้าไปหาที่หลบเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากเหตุกาณ์ดังกล่าว

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจ สภ.เมืองยะลา เปิดเผยว่า เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องที่เกิดจากความมั่นคงแต่อย่างใด และมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งขณะตำรวจยังคุมเข้มเรื่องของอาวุธปืน ห้ามนำเข้าสถานบันเทิงโดยเด็ดขาด สำหรับความคืบหน้าของคดีตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหากับดาบตำรวจคนดังกล่าว ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา พกพกพาอาวุธปืนติดตัวในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และข้อหาเมาแล้วขับ

ส่วนการที่จะนำผู้ต้องหาออกจากราชการ ต้องรอให้ทางตำรวจต้นสังกัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการในเรื่องของคดีให้เสร็จสิ้นก่อน ส่วนศพของผุ้เสียชีวิต ขณะนี้รอยาติจากทางจังหวัดร้อยเอ็ด มารับศพที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา เพื่อนำกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง