เวลา 09.06 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพิพิธภัณฑ์เพาะช่างเฉลิมพระเกียรติ วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ในการนี้ ทรงวางพวงมาลัยถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย
จากนั้น พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศ รองชนะเลิศ และรางวัลชมเชย การประกวดศิลปะปูนปั้นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20 ที่กรมศิลปากร ร่วมกับวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ และบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) จัดขึ้น เพื่ออนุรักษ์และสืบสานศิลปะปูนปั้น ภูมิปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่ และเพื่อสร้างองค์ความรู้ให้ศิลปินช่างพื้นบ้าน ครู-อาจารย์ ตลอดจนเยาวชน ได้รับการพัฒนาฝีมือยิ่งขึ้น
ในการนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการปูนปั้นสัญจร หัวข้อ "ศิลปะอยุธยา" ที่เปิดโอกาสให้ช่างพื้นบ้าน ประติมากร และนักศึกษา เดินทางไปหาประสบการณ์ร่วมกัน ณ แหล่งความรู้ศิลปกรรมสมัยอยุธยา ที่จังหวัดอ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี และสระบุรี นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการแสดงตำราลวดลายพุทธศิลป์แห่งสยาม ตอน "ลวดลายสมัยทวารวดี" รวบรวมลวดลายต้นแบบ และเทคนิคเชิงช่างสมัยทวารวดี ซึ่งเป็นยุคเริ่มแรกของการสร้างโบราณสถาน
โอกาสนี้ ทรงปั้นปูนสำเร็จรูป ทีพีไอ รูปช้าง พระราชทานแก่วิทยาลัยเพาะช่าง เก็บรักษาไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล การประกวดศิลปะปูนปั้นแห่งประเทศไทย เป็นการแข่งขันที่ผู้เข้าร่วมประกวดจะต้องทำการปั้นสดในระยะเวลาที่กำหนด คิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้างาน ช่างปั้นจะได้ศึกษาการทำงาน แลกเปลี่ยนเทคนิคระหว่างกัน มีผู้ทรงคุณวุฒิช่วยวิเคราะห์ วิจารณ์ผลงาน เป็นการสร้างบรรยากาศทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ การประกวดในปีนี้ มี 4 ประเภท ได้แก่ การปั้นปูนสด เรื่อง รามาวตาร, การปั้นปูนสำเร็จรูปทีพีไอ ระดับประชาชน เรื่อง สืบสาน รักษา ต่อยอดวิถีไทย, การปั้นปูนสำเร็จรูปทีพีไอ ระดับเยาวชน เรื่อง ตามรอยครูช่างสมัยอยุธยา และการส่งผลงานสำเร็จรูป เรื่อง คู่พระ-นางในวรรณคดี ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการฯ นี้ ได้จนถึงวันที่ 25 ธันวาคมนี้
เวลา 13.15 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริษัท ไทย บริดจสโตน จำกัด โรงงานหนองแค อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ทรงเปิดโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดจากบริษัทฯ ต้องการสร้างสังคมที่เป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมสู่ปี 2593 โดยการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญที่สุด และเป็นโครงการฯ ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งใหญ่ที่สุดของกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนทั่วโลก ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้า 9.95 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ประมาณ 97,500 ตัน ในอีก 15 ปีข้างหน้า โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการผลิตยางรถยนต์ และนิทรรศการโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตยางรถยนต์ มีกำลังการผลิตยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และยางสำหรับรถกระบะ หรือรถบรรทุกขนาดเล็ก รวม 202 ตันต่อวัน เป็นการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดเข้ามาใช้