ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตามกำหนดคือช่วงบ่ายวันนี้ (16 ม.ค.) ดีเอสไอ จะเข้าตรวจค้นโกดังและออฟฟิศของ "กองสลากพลัส" เพื่อหาหลักฐานกรณี "นอท กองสลากพลัส" รับโอนเงิน 53 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตำรวจพร้อมด้วยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และอีกหลายหน่วยงาน ชิงตัดหน้าเข้าตรวจค้นก่อน หลังพบว่าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด
เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งจากตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ., สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, สคบ., ป.ป.ง. และกรมสรรพากร นำกำลังเข้าตรวจค้นบริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด หรือ กองสลากพลัส เพื่อตรวจสอบกรณีที่ตัวแทนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าแจ้งความกับตำรวจว่า มีการขายสลากฯ เกินราคาที่กำหนด และโฆษณาว่ามีสลากฯ จำนวนมาก ทั้งที่ไม่ได้รับสิทธิการจำหน่ายจากสำนักงานสลากฯ จึงตั้งข้อสงสัยว่า อาจมีการหลอกลวงเกิดขึ้น ซึ่งการตรวจค้นครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส เข้าไปรับทราบข้อหากับตำรวจ ฐานร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้จดทะเบียน และร่วมกันเสนอจำหน่ายและจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังไม่ได้ออกรางวัลเกินราคาที่กฎหมายกำหนดไป เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา
ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ (16 ม.ค.) ดีเอสไอ จะนำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังและออฟฟิศของกองสลากพลัส หลัง นายพันธ์ธวัช เข้าให้ข้อมูลกรณีการรับโอนเงินจำนวน 53 ล้านบาท เข้าบัญชี โดยเงินจำนวนดังกล่าว มีที่มาที่ไปจากขบวนการฟอกเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้ นายพันธ์ธวัช ได้ให้การยอมรับว่า รู้จักกับคนโอนเงินจริง แต่เป็นการรู้จักผ่านนายหน้า และจากนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่อกันอีก ส่วนโกดังที่ ดีเอสไอ จะเข้าตรวจค้นเป็นที่เก็บล็อตเตอรี่ที่ขายเหลือประมาณ 170 ล้านใบ และการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ก็เพื่อตรวจสอบว่า นายพันธ์ธวัช มีลอตเตอรี่ใบจริง และมีการจัดเก็บไว้สำหรับเตรียมจำหน่ายจริงหรือไม่ หรือเป็นลักษณะสลากทิพย์ ตามที่มีการตั้งข้อสังเกต และวันที่ 26 มกราคมนี้ นายพันธ์ธวัช จะเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับดีเอสไอ ถึงเส้นทางการเงิน 39 รายการ ซึ่งมีจำนวนเงินหลักพันล้านบาท