พื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย ฝุ่นพิษยังวิกฤติต่อเนื่อง

พื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย ฝุ่นพิษยังวิกฤติต่อเนื่อง

View icon 149
วันที่ 10 มี.ค. 2566 | 09.12 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
พื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงราย ฝุ่นพิษยังวิกฤติต่อเนื่อง ขณะที่ อ.เมืองเชียงราย แม้ว่าจะยังคงเป็นสีส้ม แต่ปริมาณฝุ่น PM2.5 วัดได้สูงถึง 88 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 5 วัน

จากภาพมุมสูงในเช้าวันนี้จะเห็นว่า พื้นที่อำเภอแม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา ของจังหวัดเชียงราย ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันและฝ่นละอองขนาดเล็กที่เกินค่ามาตรฐาน จนแทบจะมองไม่เห็นเทือกเขาดอยนางนอนแล้ว โดยเช้าวันนี้นี้วัดปริมาณฝุ่น PM2.5 ได้มากถึง 111 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงที่สุดในรอบ 7 วัน ทำให้คุณภาพอากาศเป็นสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนควรงดกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง และหากจำเป็นต้องจากเคหสถานบ้านเรือนของตน แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-ลาว ทางด้านอำเภอเชียงของ ก็ไม่แตกต่างกัน เนื่องจากคุณภาพอากาศเป็นสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย แม้ว่าจะยังคงเป็นสีส้ม แต่ปริมาณฝุ่น PM2.5 วัดได้สูงถึง 88 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 5 วัน
    
ด้านสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ได้ใช้เครื่องบินหรืออากาศยานปีกตรึง Kodiak 100 ของศูนย์เทคโนโลยีดิจิตอลอากาศยานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บินลาดตระเวนวิเคราะห์สถานการณ์และแจ้งข่าวสารแก่เจ้าหน้าที่ดับไฟ โดยขึ้นบินช่วงแรกระหว่างวันที่ 9-10 มีนาคม และอีกช่วงในวันที่ 13-14 มีนาคม เบื้องต้นพบว่าเกิดไฟป่าในพื้นที่จังหวัดพะเยาและจังหวัดเชียงรายหลายจุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งยากต่อการเดินเท้าเข้าไปดับไฟ ขณะที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ ได้เริ่มวิเคราะห์สภาพอากาศ หากพบว่าความชื้นในอากาศมีเพียงพอจะส่งเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงทันที

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบแผนที่จุดความร้อนโดย Gistda จะเห็นได้ว่าจังหวัดเชียงราย เกิดจุดความร้อนน้อยมาก คือเกิดขึ้นเพียง 13 จุดในจำนวนทั้งหมด 1,017 จุดที่เกิดขึ้นใน 17 จังหวัดภาคเหนือ การที่สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศที่จังหวัดเชียงรายยังวิกฤติต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนทั้งชายแดนไทย-เมียนมา และชายแดนไทย-ลาว สาเหตุสำคัญยังคงเป็นการเกิดจุดความร้อนขึ้นเป็นจำนวนมากในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านนั่นเอง