ชาวไร่กาฬสินธุ์เฮ!! เปลี่ยนผืนดินแล้งปลูกอ้อยได้เงินหมื่น หันมาปลูกมันได้เงินแสน

ชาวไร่กาฬสินธุ์เฮ!! เปลี่ยนผืนดินแล้งปลูกอ้อยได้เงินหมื่น หันมาปลูกมันได้เงินแสน

View icon 4.1K
วันที่ 15 มี.ค. 2566 | 09.57 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่กาฬสินธุ์ เฮลั่น!! หลังพลิกผืนดินแล้งนอกเขตชลประทานที่เคยปลูกอ้อย หันมาปลูกมันสำปะหลัง ปีเดียวประสบความสำเร็จ แหล่งรับซื้อให้ราคาสูงตันละ 3,600 บาท มีกำไรได้หยิบเงินแสน

ชาวไร่กาฬสินธุ์เฮ เปลี่ยนผืนดินแล้งปลูกอ้อยได้เงินหมื่น หันมาปลูกมันได้เงินแสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตมันสำปะหลัง ของเกษตรกรชาว ต.นาเชือก ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พื้นที่นอกเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว พบว่ามีการระดมแรงงานเก็บหัวมันสำปะหลังอย่างแข็งขัน ถึงแม้จะทำงานหนักในท่ามกลางสภาพอากาศที่แดดจัดและร้อนแล้ง หรือถึงแม้จะเป็นแรงงานที่ค่อนข้างมีอายุระหว่าง 45-70 ปี แต่ทุกคนก็ไม่มีอาการเหนื่อยล้า

ชาวไร่กาฬสินธุ์เฮ เปลี่ยนผืนดินแล้งปลูกอ้อยได้เงินหมื่น หันมาปลูกมันได้เงินแสน

จากการสังเกตเกษตรกรทีกำลังเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ทุกคนมีกำลังใจทำงาน แทบจะลืมวัยและความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ด้วยเพราะว่าราคาขายผลผลิตหัวมันสำปะหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวปีนี้  มีราคาสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 3.60-3.80 บาท หรือ ตันละ 3,600-3,800 บาท ต่างจากฤดูกาลเก็บเกี่ยวปีที่ผ่านมา ที่ได้ราคาสูงสุดเพียงกิโลกรัมละ 2.50 บาท หรือ ตันละ 2,500 บาท เท่านั้น ที่สำคัญได้ราคาสูงกว่าอ้อยอีกด้วย

ชาวไร่กาฬสินธุ์เฮ เปลี่ยนผืนดินแล้งปลูกอ้อยได้เงินหมื่น หันมาปลูกมันได้เงินแสน

นางมณี วงค์สมศรี อายุ 54 ปี เกษตรกรบ้านหนองกาว บอกว่า มีที่ดินทำการเกษตร 20 ไร่ เดิมเคยปลูกอ้อยส่งโรงงาน ปีไหนประสบภัยแล้ง อ้อยให้ผลผลิตตกต่ำ เสี่ยงขาดทุน ที่สำคัญต้นทุนการทำไร่อ้อยสูงมาก รวมทุกขั้นตอนตั้งแต่เตรียมดิน ค่าปุ๋ยเคมี ค่าแรงงาน ค่าเก็บเกี่ยว เฉลี่ยไร่ละ 12,000 บาท อายุ 12-14 เดือนเก็บเกี่ยว ราคาขายตันละประมาณ  1,400 บาท ขณะที่ต้นทุนการปลูกมันสำปะหลังทุกขั้นตอนต่ำกว่าการปลูกอ้อย เฉลี่ยไร่ละ 6,500 บาท อายุ 6 เดือนขึ้น ก็ไปเริ่มเก็บเกี่ยวได้ ราคาขายตันละประมาณ 3,600 บาท หรือกิโลกรัมละ 3.60 บาท 

“โดยเฉพาะในช่วงนี้ราคารับซื้อมันสำปะหลังพุ่งสูงตามลำดับ อยู่ที่ประมาณ 3.70-3.80 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพแป้งของหัวมันสำปะหลัง นอกจากนี้ในส่วนของการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังก็ง่ายกว่าอ้อย โดยใช้รถไถพรวนแล้วเก็บหัวมัน ไม่ต้องเผาอ้อยก่อนตัด ทำให้เกิดฝุ่นละออง หรือ PM 2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกต่างหาก” นางมณี กล่าว

ชาวไร่กาฬสินธุ์เฮ เปลี่ยนผืนดินแล้งปลูกอ้อยได้เงินหมื่น หันมาปลูกมันได้เงินแสน

นายบุญจันทร์ เหล่าแสง อายุ 62 ปี เกษตรกรบ้านหนองกาวอีกราย บอกว่า เคยปลูกอ้อยมาหลายปี แต่ได้กำไรน้อย บางปีที่ประสบภัยแล้ง อ้อยไม่เจริญเติบโต ขายได้กำไรแค่เงินหมื่น แต่ปีนี้หลังจากเห็นแนวโน้มราคามันสำปะหลังดีขึ้น จึงหันมาปลูกมันสำปะหลังดู และนำไปขายได้ราคากิโลกรัมละ 3.70 บาท รวมรายได้และหักค่าใช้จ่ายเหลือเงินเป็นแสน

“อย่างที่เรียกว่าเป็นเกษตรกรมาหลายสิบปี เพิ่งได้หยิบเงินแสนก็ในปีนี้ โดยมีเงินเหลือไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. ยังเหลือแบ่งเป็นทุนสำหรับปลูกมันสำปะหลังในฤดูกาลต่อไปอีกด้วย พอมันล็อตนี้เก็บเกี่ยวเสร็จ ก็จะเริ่มเพาะปลูกทันทีที่ฝนตกลงมา ให้ดินมีความชุ่มชื้นเพื่อมันสำปะหลังเติบโตได้ดี ในภาพรวมเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังทุกคนมีกำไร ต่างจากที่เคยปลูกอ้อยซึ่งได้กำไรน้อยและเสี่ยงกับการขาดทุน แต่สิ่งที่อยากจะฝากไปถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ช่วยควบคุมราคาปุ๋ยเคมีให้ราคาถูกลงกว่านี้ด้วย เพราะปัจจุบันราคาสูงมาก ปีที่ผ่านมากระสอบละ 1,700 บาททีเดียว จึงเป็นภาระหนักของเกษตรกรที่ปัจจัยการผลิตสูงมาก เพราะหากราคาปุ๋ยเคมีลดลง เกษตรกรก็จะมีกำไร” นายบุญจันทร์ กล่าว

ชาวไร่กาฬสินธุ์เฮ เปลี่ยนผืนดินแล้งปลูกอ้อยได้เงินหมื่น หันมาปลูกมันได้เงินแสน

อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ราคาซื้อขายมันสำปะหลังสดสูงขึ้น กิโลกรัมละ 3.60-3.80 บาทดังกล่าว จึงเป็นแรงดลใจใจให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังหลายราย ใช้เวลาว่างให้เกิดมูลค่าเพิ่ม โดยนำหัวมันสำปะหลังมาสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นนำไปผึ่งแดดให้แห้ง แล้วบรรจุกระสอบไปขาย ซึ่งจะได้ราคาสูงกว่าขายหัวมันสดเป็นเท่าตัว คือ กิโลกรัมละ 7-8 บาททีเดียว