เช้าข่าว 7 สี - ศาลอาญาคดีทุจริตฯ อนุญาตฝากขัง 3 ตำรวจ ตม.ร่วมอุ้มรีดเงินชาวจีน เป็นเวลา 12 วัน โดยทั้ง 3 นายถูกนำตัวไปขังที่เรือนจำฯ ส่วนพันตำรวจตรีอีก 1 คน ที่ร่วมอุ้มและยังหลบหนี ญาติติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว
พนักงานสอบสวน สน.ดินเเดง นำตัว พันตำรวจตรีสรวิศ, ร้อยตำรวจโทสุริยะ และ ดาบตำรวจพีระศักดิ์ สังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันอุ้มชาวจีนไปรีดเงิน ไปฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นเวลา 12 วัน ในข้อหา 3 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียก รับ หรือ ยอมจะรับทรัพย์สินโดยมิชอบ ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง ระหว่างการควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ตำรวจทั้ง 3 นาย ไม่ตอบคำถามใด ๆ โดยคำร้องพนักงานสอบสวนยื่นค้านประกันตัว เนื่องจากมีเหตุควรเชื่อว่า ผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และหลบหนี ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
สำหรับผู้บังคับบัญชาของตำรวจ ตม.ทั้ง 5 นายที่กระทำผิดก็ไม่พ้นบ่วงกรรม สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีคำสั่งย้าย พันตำรวจเอก กาจภณ ปฐมัง ผู้กำกับการสืบสวน และ พันตำรวจโท พรชัย สุขเจริญ รองผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ไปประจำที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม
ส่วนความคืบหน้าคดี พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามตัว พันตำรวจตรี จิรภัทร อีกหนึ่งผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ว่า ได้รับการประสานจากครอบครัวผู้ต้องหาว่าจะเข้ามามอบตัว โดยจะนำตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ดินแดงในเช้าวันนี้
ส่วนการสอบปากคำ นายโอภาส ที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นคนชี้เป้าให้ตำรวจ ตม.ไปอุ้มรีดเงิน ให้การยอมรับว่า เป็นคนพาผู้เสียหายชาวจีนไปสวมบัตรประชาชน ทำหนังสือเดินทางในวันเกิดเหตุ แต่ยังคงปฏิเสธว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ ชี้เป้าให้กับตำรวจ ตม. หลังจากสอบปากคำเสร็จได้นำตัวไปส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ตามหมายจับค้างเก่าเมื่อปี 2565 คดีเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐปลอมบัตรประจำตัวประชาชน และหากพบความผิดเพิ่มก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง
