ขยี้ข่าวใหญ่ : ทลายแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน

View icon 41
วันที่ 25 มี.ค. 2566 | 12.01 น.
ข่าวเด็ด 7 สี
แชร์
ข่าวเด็ด 7 สี - ขยี้ข่าวใหญ่ที่เราเลือกมาวันนี้ ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน เพราะเป็นเรื่องที่มีความเคลื่อนไหวกันมาตลอดทั้งสัปดาห์ กับคดีอุ้มรีดทรัพย์ที่เกี่ยวพันไปถึงชาวจีนในประเทศไทย ทั้งที่เป็นผู้เสียหายถูกอุ้ม และชาวจีนที่เป็นผู้ก่อเหตุกับเพื่อนร่วมชาติกันเอง หากนับตอนนี้ก็มี 2 คดีเข้าไปแล้ว

แต่ที่ดูจะฮือฮาที่สุด ก็น่าจะเป็นอีกคดี คนก่อเหตุไม่ใช่เพื่อนร่วมชาติ แต่เป็นตำรวจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไปอุ้มรีดไถชาวจีนในพื้นที่ สน.ดินแดง งานนี้ไม่ได้มีตำรวจแค่เพียง 1 หรือ 2 นาย แต่เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องงามหน้าไปกันใหญ่ เพราะมีตำรวจเข้าไปร่วมวง และถูกดำเนินคดีไปมากถึง 5 นาย แถมรูปแบบยังร่วมมือกันทำเป็นขบวนการ พร้อมหลักฐานที่ยากจะแก้ตัว

ทลายแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน
ถ้าดูตามไทม์ไลน์ข่าวที่ออกมา ต้องย้อนไปที่คดีในพื้นที่ สน.ทองหล่อ มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถของร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเอกมัย เป็นภาพขณะผู้เสียหายหญิงชาวจีน กับเพื่อนที่เป็นนางนกต่อให้กับกลุ่มคนร้าย ถูกกลุ่มคนอยู่ในตู้สีดำที่จอดรออยู่ ลงมาฉุดกระชากผู้เสียหายขึ้นรถ โดยมีนางนกต่อช่วยด้วย เหตุนี้เกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายต้องจ่ายเงินสดและเงินดิจิทัลไปกว่า 3.3 ล้านบาท ก่อนได้รับการปล่อยตัวในวันต่อมา และเข้าแจ้งความกับตำรวจ

หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนนครบาล ใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง ไปติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ 3 คน ที่ด่านพรหมแดนบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้ว โดยคนร้ายเกือบออกจากชายแดนและออกนอกประเทศได้แล้ว หากตำรวจช้าอีกเพียง 5 นาที ด่านชายแดนก็จะปิดตำรวจก็จะตามตัวไม่ได้

งามหน้า ! ตำรวจ ตม. ตั้งแก๊งรีดทรัพย์ชาวจีน
จากคดีนี้ทำให้ตำรวจนครบาลไล่ตรวจสอบคดีอุ้มรีดไถชาวจีนในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลทั้งหมด เพื่อดูว่ามีคดีไหนที่มีลักษณะพฤติการณ์แบบเดียวกัน หรือคนร้ายกลุ่มนี้เคยไปก่อเหตุที่ไหนอีก ตรวจสอบไปตรวจสอบมา ไปเจอคดีหนึ่งที่สน.ดินแดง 

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา บริเวณถนนประชาสงเคราะห์ ซอย 2 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ผู้เสียหาย คือ นางสาวนามี แซ่ลี หญิงชาวไทยที่เป็นล่ามภาษาจีน พร้อมเพื่อนชายชาวจีนอีก 1 คน ผู้เสียหายแจ้งความไว้ว่า ถูกผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ 4-5 นาย สังกัดสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.เข้าไปข่มขู่ที่หน้าบ้าน และโดนอุ้มไปรีดไถเงินสกุลดิจิทัล 30,000 เหรียญ และทรัพย์สินอื่น ๆ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 10 ล้านบาท

เดี๋ยวเราจะพาไปลงลึกในคดีนี้ เริ่มจากในตอนเช้าผู้เสียหาย และล่ามไปพบนายหน้าและชายอีก 1 คนที่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อทำหนังสือเดินทาง แต่ไม่สามารถทำหนังสือได้ต้องกลับบ้าน

พอกลับมาถึง มีรถจักรยานยนต์ 1 คัน และ รถยนต์อีก 4 คันมาจอดล้อมบ้าน มีตำรวจ ตม. 5 นาย ยศตำแหน่ง ตั้งแต่ดาบตำรวจ ไปจนถึง พันตำรวจตรี และสารวัตร ขอตรวจค้นกระเป๋าและเอกสารหนังสือเดินทาง ก่อนจะพาตัวไปที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ข่มขู่จะดำเนินคดี แล้วเรียกเงิน 20 ล้านบาท เกิดการต่อรองกันไปมา สุดท้ายตกลงกันที่ 10 ล้านบาท ก่อนจะเรียกรถแท็กซี่นำผู้เสียหายไปส่งที่บ้าน แต่ผู้เสียหายเขาไม่ยอมไปแจ้งความไว้ที่ สน.ดินแดง 

ออกหมายจับแก๊งตำรวจ ตม. อุ้มรีดทรัพย์
จากข้อมูลทั้งหมด ตำรวจ สน.ดินแดง ได้นำพยานหลักฐานทั้งหมดไปขอให้ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลางออกหมายจับผู้ต้องหาในชุดแรก 4 นาย ในความผิดฐาน "ร่วมกันกักขังและหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นฯ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" ซึ่งตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ถูกกักตัวไว้ที่ต้นสังกัด

คุมตัวแก๊งตำรวจ ตม. อุ้มรีดทรัพย์ดำเนินคดี
พอหมายจับออก ก็ถูกนำตัวมาดำเนินคดีที่สน.ดินแดง ตอนกลางดึก 3 นาย คือ พันตำรวจตรี สรวิศ, ร้อยตำรวจโท สุริยา และดาบตำรวจ พีระศักดิ์ สังกัดกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เพื่อรับทราบข้อหาและสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด

ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องสอบสวน ได้สอบถามในประเด็นต่าง ๆ แต่ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้ตอบคำถามใดๆ แต่พวกเราถูกตำรวจ สน.ดินแดง ใช้ศอกกันตัวผู้สื่อข่าว พร้อมใช้ตำรวจอีกหลายนายบังกล้อง เพื่อไม่ให้ถ่ายภาพของผู้ต้องหาระหว่างนำเข้าห้องสอบสวนได้

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ได้สั่งการให้ทาง สตม. และชุดสืบสวนสอบสวน กำลังตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องหาย้อนกลับไป ถึงเรื่องร้องเรียนของผู้ต้องหาชุดนี้ว่ามีพฤติการณ์แบบนี้อีกหรือไม่ เพราะเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นครั้งแรก และจะขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการ พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า มีการส่งต่อเงินไปยังบุคคลใด

ล้างบาง แก๊งตำรวจ ตม. นอกรีต
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นาย "ให้ออกจากราชการไว้ก่อน" และคดีที่เกิดขึ้นมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่า ผู้กระทำผิดเป็นตำรวจ ผู้บังคับบัญชาจึงมีส่วนต้องรับผิดชอบ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็มีคำสั่งย้าย พันตำรวจเอก กาจภณ ปฐมัง ผู้กำกับการสืบสวน และพันตำรวจโท พรชัย สุขเจริญ รองผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ไปประจำที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม

ต่อมาก็มีตำรวจ ตม. ยศ ร้อยตำรวจโท อีก 1 นาย ซึ่งนายนี้ยังไม่ถูกออกหมายจับและร่วมก่อเหตุด้วย ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ก็ถูกแจ้งข้อหาเช่นเดียวกัน และเจ้าตัวก็ให้การปฎิเสธข้อกล่าวหาเหมือนกันเพื่อน ๆ ก่อนที่ทั้ง 4 นายจะถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาลฯ พร้อมกับศาลคัดค้านการประกันตัว ทำให้ทุกนายต้องคอตกเข้าเรือนจำ

หลักฐานชิ้นสำคัญที่ตำรวจใช้มัดตัว 1 ใน 5 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน และล่ามสาวชาวไทย เป็นภาพถ่ายที่ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่ง ซึ่งปรากฎภาพดาบตำรวจในแก๊งอุ้มรีด ส่งมอบธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 1 ปึก ให้กับหญิงสาวที่มีท่าทางใกล้ชิดสนิมกัน โดยหญิงคนนี้ มีรายงานว่าเป็นผู้โพสต์ภาพนี้ในเฟซบุ๊กด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุอุ้มรีดทรัพย์เพียงวันเดียว เหตุเกิดวันที่ 10 ต่อเนื่อง 11 มีนาคม โดยตำรวจเตรียมจะเชิญตัวหญิงสาวรายนี้มาสอบปากคำ เพิ่อขยายผลว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดหรือไม่

คุมหัวหน้าทีมตำรวจ ตม. อุ้มรีดทรัพย์
และล่าสุดเมื่อช่วงหัวค่ำ ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล ก็นำตัว พันตำรวจตรี จิรภัทร ตำรวจที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 1 คน พร้อมกับแฟนสาว ซึ่งถูกศาลแขวงดอนเมืองออกหมายจับในข้อหา "ให้ความช่วยเหลือและที่พักพิงผู้ต้องหา" มาจากจังหวัดชลบุรีหลังได้รับการประสานเข้ามอบตัวจากญาติในช่วงตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทั้งนี้ระหว่างนำตัวเข้าห้องสอบสวนพบว่า เจ้าตัว มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด และไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ กับสื่อมวลชน ก่อนจะเดินเข้าห้องสอบสวนไป

สรุปตอนนี้มีตำรวจที่ถูกออกหมายจับ หรือ ดำเนินคดีแล้ว 5 นาย ถูกจับกุมตัวและฝากขังแล้ว 4 นาย อีก 1 นายเพิ่งได้ตัว ถือว่าจับครบแล้ว

นอกจากนี้ยังดำเนินคดีกับนายหน้าซึ่งพาผู้เสียหายไปทำหนังสือเดินทางได้อีก 1 นาย ตามหมายจับค้างเก่าของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งตำรวจมีข้อมูลว่า ชายคนนี้อาจทำหน้าที่ในการชี้เป้าผู้เสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับมาดำเนินคดีในคดีของสน.ดินแดงด้วย

มีรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังควานหาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อีก 1 คน ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญที่จะเชื่อมโยงการกระทำความผิดของตำรวจทั้ง 5 นายกับเส้นทางการเงินต่าง ๆ

จะขยายผลได้มากน้อยแค่ไหน คงต้องติดตามกันต่อไป และทั้งหมดนี้คือ ขยี้ข่าวใหญ่ ในวันนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง