ไฟป่าบนดอย จ.เชียงราย ยังวิกฤต พบจุดความร้อนเพิ่มเป็น 171 จุด

View icon 92
วันที่ 17 เม.ย. 2566 | 07.22 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - สถานการณ์ไฟไหม้ป่าบนดอยที่จังหวัดเชียงรายยังวิกฤต เมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) พบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นเป็น 171 จุด ส่วนจุดที่มีความรุนแรงและน่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ ที่ดอยจระเข้ โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดชุดเฝ้าระวังดูแล 24 ชั่วโมง

ไฟป่าบนดอย จ.เชียงราย ยังวิกฤต พบจุดความร้อนเพิ่มเป็น 171 จุด
ไฟป่าบนดอยใน 11 อำเภอของจังหวัดเชียงราย ยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีท่าทีจะคลี่คลาย ทำให้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน และกลุ่มชาวบ้านอาสาดับไฟป่า และมูลนิธิกระจกเงา ต้องเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าไปตาม ๆ กัน ต้องผลัดเวรยามกันมาเฝ้าระวังไฟป่าลุกลามเข้ามาในชุมชนใกล้เคียง 24 ชั่วโมง

ขณะที่ ยังพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นเป็น 171 จุดแล้ว โดยกระจายในพื้นที่ 11 อำเภอ คือ ที่อำเภอแม่สรวย มากที่สุด 60 จุด รองลงมาอำเภอเมืองเชียงราย 20 จุด และที่อำเภอเวียงป่าเป้า 19 จุด ส่วนที่อำเภอแม่จันอยู่ที่ 17 จุด อำเภอเทิง อำเภอพาน อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอเวียงแก่น อำเภอเชียงของ อำเภอพญาเม็งราย มีจุดความร้อนลดหลั่นกันลงไปโดยที่อำเภอขุนตาล พบเพียง 2 จุดเท่านั้น

สำหรับไฟป่าที่มีความรุนแรงและน่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ ที่ดอยจระเข้ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน เนื่องจากอยู่ติดกับวัดบ้านสันพัฒนาและบ้านสันมงคล ซึ่งอยู่ติดกับเขตอุทยาน ส่วนอีกจุดคือที่น่าห่วง คือ ไฟป่าบนดอยปุย ตำบลท่าสาย พื้นที่ตัวเมืองเชียงราย ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์หลายช่อง โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่และชาวบ้านต่างก็ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันป้องกันไฟป่าไม่ให้ลุกลาม พร้อมควบคุมเปลวเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว

ขณะที่ ภารกิจวันนี้ (17 เม.ย.) ศูนย์ป้องกันไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงราย จะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งชาวบ้านกลุ่มอาสาดับไฟป่า โดยเดินเท้าเข้าไปดับไฟและปรับปรุงแนวกันไฟในจุดต่าง ๆ ทั้งหมด 8 จุดด้วยกัน เช่น ที่ดอยปุย ที่น้ำตกห้วยก้างปลา ที่บ้านผาตั้งและบ้านห้วยมะเฟือง และที่่ดอยช้าง เป็นต้น

ไฟป่าดอยพระบาท 5 วันยังไม่มอด จ.ลำปาง
ส่วนไฟป่าบนดอยพระบาท อำเภอเมืองลำปาง ที่ลุกไหม้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 แล้ว ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งสกัดทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะบริเวณหลังศูนย์ราชการจังหวัดฯ หลังเกิดการปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังแบ่งเจ้าหน้าที่เดินเท้าขึ้นไปดับไฟในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต และสวนรุกขชาติพระบาท โดยจัดกำลัง 5 ชุด สลับสับเปลี่ยนกำลังทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดการอ่อนล้าจนเกินไป

จากการติดตามทิศทาง พบว่า ไฟป่าได้ไหม้กระจัดกระจายตามกระแสลม กลุ่มควันไฟพวยพุ่งเหนือท้องฟ้า ต้องเร่งสกัดไฟก่อนจะลุกลามข้ามสันเขา เพราะจะทำให้การควบคุมเป็นไปได้ยากขึ้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง