ห้องข่าวภาคเที่ยง - ขอบสนามเลือกตั้ง 66 จะพาไปส่องตระกูลนักการเมือง ที่หอบลูกจูงหลานลงสมัคร สส. ในการเลือกตั้งครั้งนี้
สายเลือดนักการเมือง สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น จวบจนปัจจุบัน หลายตระกูลยังคงโลดแล่นอยู่ในสนามเลือกตั้งระดับชาติ เช่น ศิลปอาชา ชินวัตร หลีกภัย ลิปตพัลลภ อัศวเหม คุณปลื้ม ชิดชอบ และ ชาญวีรกูล เป็นต้น แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ บรรดาตระกูลเก่าเหล่านี้ กลับส่งผู้สมัครลงไม่มาก เมื่อเทียบกับตระกูลนักเลือกตั้งรุ่นใหม่
เริ่มกันที่ตระกูล "รัตนเศรษฐ" ยกโขยงลงเลือกตั้งครั้งนี้ถึง 7 คน ในนามพรรคพลังประชารัฐ นำทีมโดย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ มาพร้อมภรรยา ลูกชายทั้ง 3 คน ลูกสะใภ้ และน้องสาว ในจำนวนนี้ ลงสมัคร สส.เขต จังหวัดนครราชสีมาถึง 4 คน คาดหวังว่าพรรคจะคว้าเก้าอี้ สส.เขต แบบยกตระกูล สำหรับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตระกูลรัตนเศรษฐครองเก้าอี้ สส. อยู่ถึง 3 คน
มาที่ตระกูล "เทียนทอง" บ้านใหญ่แห่งวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ส่งผู้สมัครลง 5 คน แต่สวมเสื้อคนละสี ฝั่งพรรคเพื่อไทย นำทีมโดย "ป๋าเหนาะ" นายเสนาะ เทียนทอง ส่งลูกชายทั้ง 3 คน ลงสู้ศึกเลือกตั้ง ชิงชัยกับพรรคพลังประชารัฐ นำทีมโดย "หลานเหน่ง" นางสาวตรีนุช เทียนทอง ควงคุณแม่ขวัญเรือน พ่วงตำแหน่ง "น้องสะใภ้ป๋าเหนาะ" ลงชิงชัยกันแบบญาติมิตร เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีคนนามสกุลเทียนทอง ลงสมัครชนกันแม้แต่เขตเดียว
ยังคงวนเวียนอยู่แถวภาคตะวันออก ไปที่จังหวัดระยอง เลือกตั้งรอบนี้ ตระกูล "ปิตุเตชะ" ส่งผู้สมัคร 4 คน สวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ครบทีมไม่มีแตกแถว นำทัพโดย นายสาธิต ปิตุเตชะ พร้อมด้วยพี่ชาย และหลานชายอีก 2 คน เดิมสนามเลือกตั้งเมืองพระอภัยมณี ตระกูลปิตุเตชะ ครองเก้าอี้ สส. ได้ 2 คน มาคราวนี้ ตั้งเป้าหมายจะประกาศชัยชนะยกตระกูลเช่นกัน
ขึ้นไปเหนือสุดแดนสยาม ที่จังหวัดเชียงราย ตระกูล "เตชะธีราวัฒน์" ส่งผู้สมัครลง 4 คน นำทัพโดย นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย 9 สมัย ควงบุตรสาว พร้อมพี่ชาย และหลานชาย ลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เดิมตระกูลเตชะธีราวัฒน์ ครองเก้าอี้ สส.ได้เพียง 2 คน และยังต้องแบ่งพื้นที่กับพรรคอนาคตใหม่เดิม มาคราวนี้นอกจากหวังพาคนทั้งตระกูลเข้าสภาฯ แล้ว ยังหวังให้แลนด์สไลด์ยกจังหวัดอีกด้วย
มาที่ตระกูลแถบภาคกลางในจังหวัดนครนายก อย่าง "กิตติธเนศวร" ครองความไว้วางใจของคนในพื้นที่มายาวนานเกือบ 30 ปี การเลือกตั้งครั้งนี้ ส่งผู้สมัครลง 4 คน พี่น้องท้องเดียวกันอย่าง เสี่ยแหมะ สิทธิชัย หอบลูกชายไปลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย ท้าชน เสี่ยอ๋า วุฒิชัย แชมป์เก่า ผู้เป็นอา ที่หอบลูกชายไปลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย แม้การเลือกตั้งคราวนี้ ชาวนครนายกจะได้ สส.เพิ่มเป็น 2 คน แต่การลงแข่งในสนามเดียวกันของอา-หลาน ทำให้ "กิตติธเนศวร" หมดหวังเดินเข้าสภาฯ ยกตระกูลเหมือนบ้านใหญ่ในจังหวัดอื่น
ปิดท้ายที่จังหวัดเพชรบุรี ตระกูล "อังกินันทน์" ทำงานการเมืองระดับชาติมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 ก่อนที่ในช่วง 20 ปีหลัง จะหันไปจับงานการเมืองท้องถิ่น และกลับมาลงสู้ศึกระดับชาติอีกครั้ง โดยในการเลือกตั้งคราวนี้ ส่งทายาทรุ่นที่ 3 ลงสมัคร 3 คน 3 พรรคการเมืองใหญ่ ส่งหลานสะใภ้ ลงเขต 1 ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ชนกับ หลานชาย จากพรรคชาติไทยพัฒนา แบบไม่มีใครยอมใคร ส่วนอีกคนไปลงสมัคร สส.เขต 4 ในนามพรรคเพื่อไทย ส่วนจะคว้าไปได้กี่เก้าอี้ วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ รู้กัน
