เผาแล้วศพน้องอ้อม เซลสาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ด้าน สามีหลั่งน้ำตาขอให้น้องอ้อมไปสู่สวรรค์

เผาแล้วศพน้องอ้อม เซลสาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ด้าน สามีหลั่งน้ำตาขอให้น้องอ้อมไปสู่สวรรค์

View icon 1.1K
วันที่ 4 พ.ค. 2566 | 14.31 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
เผาแล้วศพน้องอ้อม เซลสาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ด้านสามีหลั่งน้ำตาขอให้น้องอ้อมไปสู่สวรรค์ พร้อมขอความเป็นธรรมให้ลงโทษประหารคนผิด ขอบคุณทุกกำลังใจ ฝากปรับระเบียบตามคนหาย

วันนี้ 4 เมษายน 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานฌาปนกิจ น้อง อ้อมเซลสาว ที่ถูกนายณัฐพล ผู้ต้องหาลวงไปขืนใจ ก่อนลงมือฆ่า เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา โดยวันนี้มีบรรดาญาติ และเพื่อนน้องอ้อมได้เดินทางมาร่วมงานที่วัดป่าบง ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า จากนั้นในเวลา 12.15 น.เคลื่อนศพน้องอ้อม ไปยังสุสานป่าช้า บ้านป่าบง

ด้านนายอำนาจ เกษประเสริฐ สามีน้องอ้อม กล่าวทั้งน้ำตาว่า วันนี้จะได้ส่งภรรยาไปอยู่บนสวรรค์แล้ว อยากบอกให้น้องอ้อมไปสบาย ไม่ต้องห่วงอะไร โดยเฉพาะลูกสาว ตนเองจะดูแลให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องทางคดีก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย และตนไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ต้องหา แต่ตั้งข้อสังเกตว่า คำรับสารภาพ ที่บอกว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่า คือ คำโกหก เพราะมีการวางแผนมาอย่างดี ซึ่งคนตายพูดไม่ได้ ก็ขอความเป็นธรรมให้น้องอ้อมด้วย และแม้ว่าผู้ต้องหาจะถูกจับกุมและตั้งข้อหาสูงสุดแล้ว แต่ตนก็อยากให้ลงโทษไปจนถึงขั้นประหารชีวิตเลย เพราะหากจำคุกตลอดชีวิต แต่ต่อมาได้รับการลดโทษ ออกมานอกคุกก็เป็นภัยต่อสังคมอีก และเห็นจากข่าวนายณัฐพล ก็ดูไม่ได้สำนึกผิดอะไร แถมยังมีสีหน้าที่ไม่สลดเลย

ทั้งนี้ส่วนตัวติดใจเรื่องโทรศัพท์ ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเอาไปทิ้ง ตนอยากได้โทรศัพท์ของน้องอ้อมคืน อย่างน้อยก็เก็บไว้เป็นที่ระลึก และก็อยากรู้ว่านายณัฐพล ได้คุยอะไรกับน้องอ้อมก่อนก่อเหตุ สุดท้ายนี้ อยากขอบคุณทุกกำลังใจที่ช่วยตามหาน้องอ้อมในวันที่หายตัว และส่งกำลังใจมาให้ตนและครอบครัวด้วย พร้อมทั้งขอฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับเรื่องเกี่ยวกับคนหาย ได้พิจารณาถึงความเสี่ยงที่จะมีต่อบุคคลที่หายไปด้วย เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที  เพราะเหตุการณ์ของน้องอ้อมที่หายตัวไปนี้ มีพฤติการณ์ที่ผิดปกติบ่งบอกถึงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น จึงอยากให้กรณีของน้องอ้อมเป็นตัวอย่างที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในช่วยตามหาคนหายที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมงด้วย พร้อมกันนี้วอนขอโซเชียลตามหาโทรศัพท์ของน้องออมที่หายไปด้วยทางครอบครัวต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่เชื่อว่า ผู้ต้องหาจะโยนทิ้งอาจนำไปขายแล้ว

ขณะที่น้องน้ำปาย เพื่อนสนิท ของน้องอ้อมบอกว่า ตนเป็นเพื่อนกับน้องอ้อม ที่ทำงานเซลด้วยกันมา 3 ปีแล้ว และแทบจะตัวติดกัน ปีหนึ่งมี 365วัน ก็คุยกัน 360 วันแล้ว สนิทกันถึงขั้นรู้รหัสเกือบทุกอย่าง ทำให้วันที่น้องอ้อมหายตัวไป ตนจึงไปติดต่อที่ศูนย์โทรศัพท์ เพื่อติดตามจีพีเอสและเมื่อคนร้ายรับสายจึงพูดถ่วงเวลาไว้ เพื่อให้ตำรวจสามารถตามไปถึงที่ได้ทัน แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดูแลประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อให้ดีกว่านี้ หากแก้กฎหมายตามคนหายได้ทันที น้องอาจมีชีวิตรอดก็ได้ ส่งผู้ต้องหาขอให้ลงโทษให้หนักจนถึงขั้นประหารชีวิต เพราะมีประวัติทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศมากว่า 6 คดีแล้ว หากออกมาก็เป็นภัยสังคมอีก

ทั้งนี้ ทราบมาว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้มีการหลอกล่อเซลที่หางดง เพื่อหวังก่อเหตุล่อลวงเช่นกัน แต่ดีที่เซลไม่หลงกล ส่วนกรณีน้องอ้อมไม่มีใครคาดคิดว่าคนร้ายจะใช้อุบายว่า ขับรถเลยทำให้น้องอ้อมต้องเดินเท้าไปหาที่ร้านกาแฟ จนเกิดเหตุสลดในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเซล คือ งานบริการ ที่ต้องดูแลลูกค้าอย่างดี แต่จากนี้จะมีการหารือในการหามาตรการป้องกัน ต่อไปจะไม่มีการออกไปนอกศูนย์ ขอให้ลูกค้าเข้าใจด้วย สำหรับสิ่งที่อยากจะบอกเพื่อน คือถ้าชาติหน้ามีจริงก็ขอให้ได้เจอกันอีกพร้อมเปิดเผยว่า มีเพื่อนเห็นว่าแอคเคาน์ติ๊กต็อกของน้องอ้อมมีการออนไลน์และยังมีการโพสต์คลิปอยู่ จึงเชื่อว่าน้องอ้อม คงกลัวว่าเพื่อนจะเหงา เพราะเป็นคนที่ติดเพื่อนมาก

เซล

เซล

เซล

เซล

เซล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง