สองพี่น้อง นักเรียนชั้น ม.2 สัญชาติกัมพูชา ติดตามแม่มาอยู่กับพ่อเลี้ยงคนไทยที่บุรีรัมย์ หวั่นไม่ได้เรียนต่อ ถูกส่งกลับกัมพูชาหลังเม่เสียชีวิต

สองพี่น้อง นักเรียนชั้น ม.2 สัญชาติกัมพูชา ติดตามแม่มาอยู่กับพ่อเลี้ยงคนไทยที่บุรีรัมย์ หวั่นไม่ได้เรียนต่อ ถูกส่งกลับกัมพูชาหลังเม่เสียชีวิต

View icon 2.2K
วันที่ 15 มิ.ย. 2566 | 14.37 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (15 มิ.ย. 66) นายเสาร์ เบญจศาตร์ อายุ 83 ปี และ นางสุภาพ จีนเกา 68 ปี  ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ  จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากครูที่โรงเรียนแจ้งว่าอาจจะไม่ได้ให้ น.ส.ไม อายุ 17 ปี  และ นายพรร อายุ 15 ปี สองพี่น้องซึ่งมีสัญชาติกัมพูชา ปัจจุบันเรียน ชั้น ม.2 อยู่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้เรียนต่อ และอาจจะถูกส่งกลับภูมิลำเนาที่ประเทศกัมพูชา เนื่องจากกลัวว่าจะถูกตรวจสอบว่าอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาเรียนเหมือนโรงเรียนที่ จ.อ่างทอง

โดยสองตายาย ยืนยันว่า สองพี่น้อง น.ส.ไม และ นายพรร ได้ติดตามแม่มาอยู่ที่เมืองไทยตั้งแต่อายุได้ 9 ขวบ และ 3 ขวบ เพราะแม่ของเด็กทั้งคู่ได้สามีใหม่เป็นลูกชายของสองตายายเอง ซึ่งทางครอบครัวก็รักและเลี้ยงดูเหมือนลูกหลานแท้ๆมาโดยตลอด จึงเดินเรื่องให้เข้าเรียนระดับชั้นประถมศึกษาในพื้นที่จนจบชั้น ป.6 และย้ายเข้าเรียนชั้น ม.1 ที่โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ แต่พอแม่ของเด็กทั้งสองเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ประกอบกับมีกระแสข่าวการตรวจสอบโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.อ่างทอง กรณีให้เด็กสัญชาติอื่นเข้ามาเรียนหลายคนผิดปกตินั้น พอทั้งคู่เข้าเรียนชั้น ม.2 ครูก็แจ้งกับผู้ปกครองว่า เด็กทั้งคู่อาจจะไม่ได้เรียนต่อ และอาจจะถูกส่งกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชา จึงได้ออกมาขอความช่วยเหลืออ ยากให้เด็กได้เรียนต่อและมีอนาคตที่ดี  

ขณะที่สองพี่น้องบอกว่า พวกตนติดตามแม่มาตั้งแต่เด็ก มาอยู่กับพ่อเลี้ยงคนไทย และครอบครัวของพ่อเลี้ยง รักและผูกพันเหมือนครอบครัวแท้ๆ ก็ได้เข้าเรียนชั้นประถมโดยมีหลักฐานใบเกิด และเอกสารรับรองสัญชาติ ใช้ชีวิตอยู่ประเทศไทยจนรู้สึกเหมือนเป็นคนไทยไปแล้ว แต่พอทราบข่าวว่าอาจจะไม่ได้เรียนต่อ และอาจจะถูกส่งกลับประเทศก็รู้สึกกังวลมาก แม้ว่าจะยังมีพ่อและญาติอยู่ที่ประเทศกัมพูชา แต่ก็ไม่อยากกลับ อยากจะใช้ชีวิตและทำงานที่เมืองไทย อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังทาง ผอ.โรงเรียน ก่อนให้ข้อมูลว่า ไม่ทราบเรื่องว่ามีใครไปแจ้งกับทางผู้ปกครองเด็กแบบนั้น หรืออาจจะมีการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนหรือไม่ จะทำการตรวจสอบดู แต่ยืนยันว่าเด็กทั้งคู่ยังสามารถไปเรียนได้ตามปกติ หากมีผลเปลี่ยนแปลงอย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง