พ่อแม่นำลูกเป็นเด็กพิเศษ แจ้งความถูกกลุ่มวัยรุ่นปิดห้องรุมกระทืบไม่ยั้ง ถ่ายคลิปลงโซเชียล เหตุไม่พอใจมองหน้าแฟนสาว ตำรวจรวบทันที สารภาพทำจริง นำตรวจฉี่พบมีสีม่วง
วันนี้ (1 ก.ค.66) พ่อแม่นำลูกชาย ซึ่งเป็นเด็กพิเศษวัย 15 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ. พิชิต โพธิทัด ร้อยเวรสอบสวน และ พ.ต.ท. บรรจง พิลัย รองผู้กำกับฯ สถานีตำรวจภูธรไพร เนื่องจากลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นหลอกไปหาที่บ้าน ก่อนปิดประตูรุมซ้อม ทำร้าย ทั้งเตะ ทั้งกระทืบ จนหน้าตาบูดบวม แต่กลับปกปิดพ่อแม่บอกว่าขับรถจักรยานยนต์ตามรถบรรทุกหิน และหินร่วงมาโดนใบหน้า จนเพื่อนบ้านนำคลิปในโซเชียลมาให้ดู พ่อแม่หัวใจแทบสลาย
โดยเด็กพิเศษวัย 15 ปีที่ถูกทำร้าย เล่าให้ฟังว่า ตนกับรุ่นพี่เป็นเพื่อนกัน ไปมาหากันเป็นปกติ และเคยไปเล่นที่บ้านเพื่อนรุ่นพี่ 2 – 3 ครั้ง ก็ไม่มีปัญหาอะไร โดยวันเกิดเหตุ (30 มิ.ย. 66) ไปเล่นกับรุ่นพี่ตามปกติ ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งพี่อีกคน และค่อยกลับมาส่งเพื่อนรุ่นพี่ โดยรุ่นพี่บอกว่าลืมสายชาร์จแบตโทรศัพท์ ขอให้ตนพากลับไปเอา ตนก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับไป เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว เพื่อนรุ่นพี่ก็ให้เข้าไปในบ้าน และปิดประตูรุมทำร้ายตน ตนได้แต่ร้องขอชีวิต และขอโทษ เพราะตอนนั้นไม่ทราบว่าตนผิดอะไร ทำไมเพื่อนรุ่นพี่จึงรุมทำร้ายตน จนมีเสียงบอกว่า อย่ามองหน้าแฟนกูอีก อย่ามาเทียบรุ่น
หลังแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเด็กพิเศษวัย 15 ปี ไปตรวจร่างกาย ก่อนติดตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายได้ 3 คน อายุ 17 – 18 และ 19 ปี และนำตัวมาสอบถาม เบื้องต้นทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าลงมือทำร้ายเด็กพิเศษจริง เพราะเด็กพิเศษคนนี้มองหน้าแฟนสาวแบบไม่ลดละสายตา ทำให้ไม่พอใจ จึงหลอกไปรุมทำร้าย เพื่อสั่งสอน และถ่ายคลิปลงโซเชียลหวังข่มขู่ โดยวันนั้นมีเพื่อนๆ ที่อยู่ในห้องด้วยกัน 6 คน รวมทั้งแฟนสาวที่เด็กพิเศษมองหน้าด้วย แต่ที่รุมทำร้ายจริงๆ มีเพียง 3 คนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจปัสสาวะกลุ่มวัยรุ่นพบเป็นสีม่วง ซึ่งทุกคนยอมรับว่าเสพยาไป 2 วันแล้ว จากนั้นได้นำตัวทั้งหมดส่งสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ และจะสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพอีกครั้งในข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และเสพยาเสพติดต่อไป
