ประเด็นเด็ด 7 สี - ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ เรานำเสนอปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน มาหลายครั้งมาก แต่ล่าสุด ระดับหนี้ยังสูง ตัวเลขจากธนาคารแห่งประเทศไทย เผยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทย ไตรมาสแรกปี 2566 พุ่งทะลุ 90% ไปติดตามหนทางแก้หนี้
ก่อนหน้านี้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทย ดูเหมือนจะผ่อนคลายลง แต่เมื่อมาดูข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ ล่าสุดพบว่า หนี้ครัวเรือน ภายใต้ข้อมูลชุดใหม่พุ่งแตะระดับ 90.6% ทำให้แบงก์ชาติ กำลังพุ่งเป้าเร่งแก้หนี้ โดยเฉพาะกลุ่มหนี้เรื้อรัง
ข้อมูลชุดใหม่ที่พบสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทย ไตรมาสแรก หรือ ในรอบ 3 เดือนแรกของปี พุ่งแตะระดับ 90.6% คือการรวมสินเชื่อที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของแบงก์ชาติ และก้อนหนี้อีกส่วนที่ไม่ได้อยู่ภายใต้กำกับดูแล เช่น สินเชื่อรถยนต์, สินเชื่อสหกรณ์ และสินเชื่อเพื่อการศึกษา เมื่อรวมกันแล้ว ก็เลยทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือน ไตรมาสแรกปี 2566 เพิ่มจาก 86.3% เป็น 90.6% หรือ 16 ล้านล้านบาท
หากจำแนกตามพฤติกรรมการก่อหนี้ จะพบว่า มีทั้งกลุ่มเป็นหนี้เร็ว หนี้เยอะ กลุ่มนี้เจาะจงไปที่วัยทำงาน อายุ 25-29 ปี กลุ่มนี้มีประมาณ 4.8 ล้านคน เกือบ 58% เป็นหนี้ และ 1 ใน 4 กลายเป็นหนี้เสีย บางคนมีบัตรหลายใบรูดเพื่อใช้จ่าย ใช้จ่ายเสร็จก็กู้ซํ้า กู้บัตรนี้ไปจ่ายบัตรนั้น หมุนเวียนไป แล้วมีหลายบัญชี ปรากฏว่า คนเหล่านี้กู้ถึง 10-25 เท่าของรายได้ ถ้าเป็นประเทศอื่นจะราว ๆ 5-12 เท่า คือครึ่งหนึ่งของรายได้ และยอดหนี้ ยังกลายเป็นตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตช้ากว่าประเทศอื่น ๆ ด้วย
อีกประเภท คือหนี้ภาระเยอะ คือหนี้กลุ่มราชการ เงินเดือนไม่เยอะ แต่สวัสดิการเงินกู้เยอะ ทำให้ต้องรับภาระหลายด้าน ส่วนหนี้เกษตร กลุ่มนี้เป็นกลุ่มลำบาก เพราะรายได้ไม่แน่นอน แต่ต้องเป็นหนี้กันเรื้อรัง บางคนกู้ทางโน้นมาโปะทางนี้ ตอนนี้ที่ทำได้คือเร่งให้ความรู้เกษตรกร ทั้งความรู้ทางการเงินและวิธีแก้ไขปัญหาหนี้สิน บรรจุหลักสูตร "เกษตรปลอดหนี้" ในโรงเรียนทางไกล ผ่านการจัดกิจกรรมโดยเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ซึ่งใกล้ชิดกับประชาชน
และเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาหนี้แบบยั่งยืน ระหว่างนี้ แบงก์ชาติ กำลังเตรียมออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ ให้ครอบคลุมวงจรหนี้ คาดว่าจะชัดเจนปลายเดือนกรกฎาคมนี้
และมีข่าวว่า มาตรการแก้หนี้ อาจจะออกมาเป็นชุด 4 แนวทาง หนึ่งในนั้น คือ การแก้หนี้กลุ่มลูกหนี้สถานะปกติ แต่เรื้อรัง หรือต้องใช้เวลานานกว่าจะปิดหนี้ได้ โดยกำหนดแนวทาง จ่ายครบ จบหนี้ ภายในเวลา 4 ปี แบ่งการชำระตามสถานะและอัตราดอกเบี้ย อธิบายไว้ว่า หากคุณอยู่ในกลุ่มลูกหนี้เรื้อรัง และจ่ายดอกเบี้ย มากกว่าเงินต้นติดต่อกันเป็นระยะเวลา 2 ปี ก็จะกำหนดให้ธนาคาร ลดอัตราดอกเบี้ยให้เหลือเพียง 8-12% เพื่อช่วยให้คุณปิดหนี้ได้เร็วขึ้นนั่นเอง แต่หากลูกหนี้ไม่สามารถปิดจบหนี้ได้ภายใน 4 ปี ข้อมูลจะติดธง บนฐานข้อมูลเครดิตบูโร ซึ่งจะทำให้้ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้จนถึงปีที่ 5 แม้ลูกหนี้รายดังกล่าวจะไม่ได้เป็นหนี้เสีย หรือค้างชำระก็ตาม
การติดธงลูกหนี้ บนข้อมูลเครดิตบูโร คล้าย ๆ กับการติดแบล็กลิสต์ ก็เพื่อให้ธนาคารและลูกหนี้ ตระหนักและให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้เรื้อรังให้หมดไปนั่นเอง
