อินโดนีเซีย บุกยึดเรือบรรทุกน้ำมันที่ติดธงสัญชาติอิหร่าน ซึ่งต้องสงสัยว่ามีการลักลอบขนถ่ายน้ำมันดิบอย่างผิดกฎหมาย วันนี้ สำนักงานความมั่นคงทางทะเลของอินโดนีเซีย หรือ "บากัมลา" (Bakamla) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยยามชายฝั่งของอินโดนีเซีย ได้ปฏิบัติการบุกยึดเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ (Very Large Crude Carrier - VLCC) ที่ชื่อว่า "เอ็มที อาร์มัน 114" (MT Arman 114) ซึ่งเป็นเรือติดธงสัญชาติอิหร่าน ที่บรรทุกน้ำมันดิบปริมาณ 272,569 ตัน คิดเป็นมูลค่า 304 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 10,500 ล้านบาท โดยเรือลำนี้กำลังลักลอบขนถ่ายน้ำมันดิบไปยังเรือบรรทุกน้ำมัน "เอ็มที เอส ไทนอส" (MT S Tino)) ที่ติดธงสัญชาติแคเมอรูน นอกชายฝั่งของอินโดนีเซีย บริเวณทะเลนาตูนาเหนือ (North Natuna Sea) หรือทะเลจีนใต้ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ขับเรือเข้าไปใกล้ ๆ เรือทั้งสองลำพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจติดตามเรือ "เอ็มที อาร์มัน 114" ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากทางการมาเลเซีย หลังเรือดังกล่าวล่องเข้าไปในเขตน่านน้ำของมาเลเซีย
จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า เรือ "เอ็มที อาร์มัน 114" ปลอมแปลงสัญญาณตำแหน่งว่าอยู่ในทะเลแดง แต่แท้จริงอยู่ในบริเวณที่ตรวจพบ จึงเชื่อว่ามีเจตนาร้าย ส่วนเรือ "เอ็มที เอส ไทนอส" มีข้อมูลว่า ควรจะถูกทำลายทิ้งไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2561
ทั้งนี้ จากรายงานวิเคราะห์ของสำนักงานรอยเตอร์ส เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พบว่า กองเรือ "เงา" ที่เป็นเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรจากอิหร่าน, รัสเซีย และเวเนซุเอลา มักมีการขนถ่ายสินค้าในบริเวณช่องแคบสิงคโปร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับ
