ห้องข่าวภาคเที่ยง - ขยี้ข่าวใหญ่ยังอยู่กับเรื่องการเมือง เพราะวันนี้อาจเป็นนัดชี้ชะตาแล้วว่า 8 พรรค จะเดินหน้า หรือ ล้ม MOU 8 พรรค หลังรอยร้าวยิ่งบาดลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ กับคำว่า สัจจะ และ เสียสละ ซึ่งดูเหมือนว่า ก้าวไกล ยึดว่าต้องมีสัจจะ ส่วน เพื่อไทย อยากให้เสียสละมากกว่า
ลุ้น 8 พรรค เดินหน้า หรือ ล้ม MOU ร่วมตั้งรัฐบาล
วันนี้ 15.00 น. จะมีการประชุม 8 พรรค ซึ่งเดิมนัดกันที่พรรคเพื่อไทย แต่กลัวจะเกิดเหตุวุ่นวายที่กลุ่มทะลุวังบุกไปเหมือนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เลยย้ายสถานที่ไปที่อาคารรัฐสภา ก็ต้องคุยให้ชัดว่าจะเอาอย่างไรกันต่อ หลัง พรรคเพื่อไทย ได้เจรจากับ 5 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมไปแล้ว และจะนำเงื่อนไขทางการเมืองมากางให้เห็นบนโต๊ะเจรจา ประเด็นที่แรงชัดที่สุดคือ ทั้ง 5 พรรค ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมกับ พรรคก้าวไกล ที่มีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้เกิดเสียงแตกใน 8 พรรค
8 พรรค เสียงแตก แยกข้างเชียร์ เพื่อไทย VS ก้าวไกล
อย่างเช่น คุณเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 312 เสียงของ 8 พรรค ก็ออกมาสนับสนุนการเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย เสนอให้ยกเลิก MOU ที่เคยทำร่วมกันในวันที่ 22 พฤษภาคม เพราะ พรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแล้ว พร้อมระบุมีการพูดคุยกับอีก 2 พรรคเล็ก คือ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และ พรรคใหม่ เติมเสียงให้ เพื่อไทย ได้อีก 2 เสียงด้วย
ขณะที่ท่าทีของ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อีกหนึ่งเสียงจากพรรคเสรีรวมไทย ก็ชัดเจนว่า สนับสนุนเพื่อไทย เรียกร้องให้ ก้าวไกล เสียสละ จนถูกทัวร์ลงยับเลย ถึงขนาดมีบางคนแสดงความไม่พอใจด้วยการโพสต์คลิปทิ้งเสื้อ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ลงถังขยะด้วย
ส่วนอีก 2 เสียงของเพื่อไทรวมพลัง รวมถึง 9 เสียงของพรรคประชาชาติ ยังแทงกั๊ก ไม่ตอบชัดจะฉีกหรือเดินหน้า MOU ที่มี ก้าวไกล เป็นผู้ร่าง ขอรอดูการหารือก่อน และยังหวังว่าจะประนีประนอม เพื่อประคับประคองให้ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันต่อไปได้
ตอนนี้ก็เลยเท่ากับว่า 8 พรรค แบ่งเป็นสองขั้ว 3 ต่อ 3 พรรค โดยอีกสองพรรค ที่ยังยืนข้างพรรคก้าวไกล ประกอบด้วย พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง พรรคเป็นธรรม 1 เสียง รวมฝั่งนี้มี 158 เสียง ส่วนฝั่งเพื่อไทย รวมกับพลังสังคมใหม่ และเสรีรวมไทย จะมีเสียงอยู่ที่ 143 เสียง
อีก 2 พรรค คือ ประชาชาติ กับ เพื่อไทรวมพลัง รวม 11 เสียง แม้จะยังสงวนท่าที แต่ก็มีแนวโน้มว่าสุดท้ายเมื่อต้องตัดสินใจกันจริง ๆ น่าจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย
แต่การที่ พรรคเพื่อไทย จะแยกตัวออกมาจาก ก้าวไกล ไปร่วมงานการเมืองกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม โดยเฉพาะ พรรคพลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะตอนนี้ต้องเรียกว่าอดีตตามมาหลอกหลอนจริง ๆ ชาวเน็ตพากันขุดคุ้ยคำพูดระหว่างหาเสียงของแกนนำ โดนกันหมดเลย ไล่ตั้งแต่ คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค เคยประกาศลาออก ถ้าพรรคไปจับมือกับพลังประชารัฐ
ไปจนถึงการย้อนคำปราศรัยของ คุณเศรษฐา ทวีสิน และ คุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร 2 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ที่เคยประกาศไว้ในหลายเวทีว่า ไม่ต้องการร่วมกับ พรรคพลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ ไม่เอา 2 ลุง มาทวงคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนด้วย
โซเชียลขุดคลิป ชายตำหนิพรรคเพื่อไทยจอมปลอม
ล่าสุด ชาวเน็ตมีการนำคลิปในวันที่แกนนำพรรคเพื่อไทย นำผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ไปสมัคร สส.ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ซึ่งมีชายคนหนึ่งตะโกนต่อว่า พรรคเพื่อไทย ว่าไม่ดูแลคนเสื้อแดง มาแชร์กันอีกรอบ โดยมียอดคนเข้าไปดูแล้วมากกว่า 2.4 ล้านวิว
อีกวิบากกรรมหนึ่งที่ถาโถมมายังแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย คือ การเตรียมทิ้งระเบิดลูกใหญ่ของ คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ที่ออกมาเปิดข้อมูล คนอยากเป็นนายกฯมีพฤติการณ์ นิติกรรมอำพราง เป็นที่ประจักษ์ แทนที่จะซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เลี่ยงภาษี ทำให้รัฐเสียรายได้ไป 500 ล้านบาท ซึ่งเดิมกำหนดจะแถลงวันนี้ แต่ล่าสุดประกาศเลื่อนออกไป รอสภาฯ ได้วันโหวตนายกฯ ก่อน พร้อมทิ้งท้ายไว้ว่า I’ll be back
แม้ในโพสต์ไม่ระบุชื่อ แต่ก็เป็นที่รับรู้กันว่า คุณชูวิทย์ หมายถึง คุณเศรษฐา ซึ่งเจ้าตัวเคยออกมาชี้แจง ยืนยันว่าทำธุรกิจมานาน มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง และจนถึงขณะนี้ก็ต้องบอกว่า พรรคเพื่อไทย เอง ก็ยังไม่ชัดเลยว่าจะส่งชื่อแคนดิเดตคนไหนลงชิงตำแหน่งนายกฯ เพราะมีด้วยกัน 3 คน
อีกทั้งสุดท้ายแล้วอาจจะมีการเลื่อนโหวตนายกฯ รอบ 3 ในวันที่ 27 กรกฎาคม ออกไปก็ได้ ส่วนจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน น่าจะมีความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) ที่อาจารย์วันนอร์ จะมีการหารือร่วมกับวิป 3 ฝ่าย มีวาระพิจารณาทั้งบทสรุปจากที่ประชุม 8 พรรค ไปจนถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่ประชุมรัฐสภาใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ 41 มาล้มญัตติการเสนอชื่อ คุณพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้รัฐสภาชะลอการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ออกไปก่อนจนกว่าศาลฯ จะมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่งด้วย
ขอบคุณภาพจาก : @gamepkh