ประเด็นเด็ด 7 สี - นอกจากสินค้าในกลุ่มอัญมณี และอาหารที่สามารถส่งออกไปยังประเทศซาอุดีอารเบียได้ ตอนนี้มีต้นไม้ มากถึง 38 ชนิดที่ทางการซาอุดีอาระเบียเปิดกว้าง อ้าแขนรับจากไทย ติดตามในประเด็นเด็ดเศรฐกิจ
โอกาสการค้าระหว่างประเทศกับซาอุดีอาระเบียยังมีอีกมาก โดยจะมุ่งขยายความร่วมมือ และการลงทุนในด้านต่างๆ ซึ่งหนึ่งในโอกาสที่น่าสนใจก็คือโครงการปลูกต้นไม้ 50,000 ล้านต้น ในกลุ่มประเทศอาหรับ
โครงการปลูกต้นไม้ 50,000 ล้านต้นในกลุ่มประเทศอาหรับ หนึ่งในนั้น คือซาอุดีอาเบีย มีเป้าหมายปลูกต้นได้ ราว 10,000 ต้น เพื่อพลิกภาพดินแดนแห่งทะเลายทราย นำไปสู่ดินแดนตะวันออกกลางสีเขียว ในปีก 7 ปีข้างหน้า หวังเปลี่ยนพื้นที่เสื่อมโทรมให้กลับมามีชีวิตชีวา ด้วยเพราะซาอุดีอาระเบียเอง เค้าติดโผ 1 ใน 10 ประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มากที่สุดในโลก เพราะเค้าขาดต้นไม้ และซาอุฯยังอยู่ในอันดับที่ 90 จาก 180 ประเทศ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้ม ทั้งหมด ถือเป็นข่าวดี และเป็นโอกาสทองของพี่น้องเกษตกรไทย เพราะทางซาอุดีอาระเบีย เปิดกว้างให้ไทยส่งออกต้นไม้ 38 ชนิดไปซาอุฯ ได้ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้ส่งต้นไม้ไปยังซาอุฯ แล้วกว่า 200,000 ต้น และถือว่ายังมีโอกาสให้ไทยส่งออกต้นไม้ไปยังซาอุฯ ได้อีกมาก
ส่วนต้นไม้ที่เกษตรกรไทย มีโอกาสส่งออกไปซาอุฯได้ ประกอบด้วย ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์, ต้นนนทรี, พุทราจีน, ศรีตรัง ต้นหูกวาง, ต้นอรชุน อย่างชื่อแปลก ๆ ก็ต้นเลี่ยน, มะตูมซาอุ, กร่าง, ปอทะเล, ทามาริสก์ และไม่เพียงซาอุดีอาระเบีย ที่กำลังหันมาปลูกต้นไม้จำนวนมาก ไปดูตลาดอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ก็นำเข้าต้นไม้จากประเทศไทย เช่นกัน โดยเปิดนำเข้าเฉพาะต้นไม้คิดเป็นมูลกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
นอกจากนี้ สินค้าและบริการอย่าง ที่กำลังได้รับความนิยม ได้แก่ กลุ่มอาหารแช่แข็ง, ข้าวหอมมะลิ, ชิ้นส่วนยานยนต์, เฟอร์นิเจอร์, บริการด้านสุขภาพ, สปา, เครื่องสำอางค์ ว่ากันด้วยเรื่องของซาอุ คราวนี้ เมื่อเราสินค้าไปได้มาก โดยเฉพาะต้นไม้ นอกจากเกษตกรจะมีรายได้เพิ่ม แรงงาน ก็ยังมีโอกาสเข้าไปทำงานที่ซาอุ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม รับจ้างดูแลต้นไม้ รับจ้างซ่อมแซม หรือ กลุ่มธุรกิจบริการ และที่ต้องเคร่งครัด กำชับกันมาก คือการรักษาคุณภาพ เพื่อจะทำให้ไทยครองตลาด มั่งคั่งไปได้นาน ๆ
