เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีคนขับรถแท็กซี่กร่าง ทำร้ายผู้โดยสาร เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย โดยพบว่าแท็กซี่ที่มีพฤติกรรมคุกคามผู้โดยสาร ส่วนใหญ่เป็นรถแท็กซี่เถื่อน ที่มีอยู่เกลื่อนกรุงเทพมหานคร จากคนกลุ่มหนึ่งที่มีพฤติกรรมไม่ต่างจากมาเฟีย ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของรถแท็กซี่ที่ทำถูกกฎหมายต้องได้รับผลกระทบไปด้วย
เหตุการณ์เมื่อกลางดึก วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริเวณปากซอยสุขุมวิท 38 ที่ผู้โดยสารกลุ่มหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ และถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เปิดประตูรถเข้ามาทำร้ายร่างกาย เนื่องจากก่อนหน้านั้นผู้โดยสารกลุ่มนี้ ได้เรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง แต่ได้รับการปฏิเสธ เลยถามว่าทำไมไม่ไป และบังเอิญมองไปเห็นป้ายทะเบียนเป็นสีขาว (ป้ายดำ) จึงพูดออกไปว่า "ทำไมถึงไม่ไปหรอ อ้าว รถผิดกฎหมายนี่ ทะเบียนเป็นป้ายดำ" จนเป็นชนวนเหตุให้เกิดการท้าทาย และลงเอยด้วยผู้โดยสาร 1 ในกลุ่มนี้ ถูกคนขับแท็กซี่เถื่อนเรียกพวกมารุมทำร้าย
ความคืบหน้าในทางคดี พันตำรวจเอก พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหากับคนขับรถแท็กซี่ป้ายดำและพวกแล้ว ซึ่งมีผู้ร่วมในเหตุการณ์อีก 7 คน โดยทางผู้เสียหายยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจะให้ไปเปรียบเทียบปรับผู้ก่อเหตุในชั้นศาลเท่านั้น ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน รอใบรับรองแพทย์ จากผู้เสียหาย และทำสำนวนให้แล้วเสร็จเพื่อให้ศาลพิจารณาโทษต่อไป
เหตุการณ์นี้เป็นกรณีตัวอย่างหนึ่งที่เกิดจากพฤติกรรมของคนขับรถแท็กซี่เถื่อน ซึ่งจากข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก พบว่า ปัญหาลักษณะนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ถูกร้องเรียนเข้ามาบ่อยครั้ง จากสถิติการร้องเรียนรถสาธารณะผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ในเขตกรุงเทพมหานคร ช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2565 - 30 มิถุนายน 2566 พบว่ามีเรื่องร้องเรียนมากถึง 18,782 เรื่อง โดย 5 ข้อหา ที่มีการร้องเรียนมากที่สุด คือ
1. ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร
2. แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ
3. ใช้รถผิดประเภท (ป้ายดำ)
4. ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว
5. ไม่ส่งผู้โดยสารตามที่ตกลง
จากเรื่องร้องเรียน 18,782 เรื่อง พบว่าได้รับการแก้ไขไปแล้ว 16,818 เรื่อง หรือคิดเป็นร้อยละ 89.54 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัญหาข้อร้องเรียนต่าง ๆ เหล่านี้คงจะไม่หมดไปง่าย ๆ เพราะจากสภาพความเป็นจริง พบว่า รถแท็กซี่เถื่อนที่มักจะสร้างปัญหาจนนำมาสู่การร้องเรียนเป็นประจำ ยังมีอยู่เกลื่อนในกรุงเทพมหานคร
ทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิตได้รับการเปิดเผยจากคนขับรถแท็กซี่มิเตอร์คันหนึ่ง ที่ได้พาทีมข่าวลงสำรวจรถแท็กซี่เถื่อน บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งเป็นจุดที่มีแท็กซี่เถื่อนมาจอดดักรอผู้โดยสารอยู่มากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ลักษณะของแท็กซี่เถื่อนเหล่านี้ สภาพรถจะค่อนข้างเก่า เพราะส่วนใหญ่เป็นรถแท็กซี่ที่หมดอายุ และติดป้ายทะเบียนสีขาว สีดำ เหมือนรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป จอดรับผู้โดยสารโดยไม่เปิดสัญญาญไฟมิเตอร์ รถแท็กซี่เถื่อนมักหากินกับผู้โดยสารที่เป็นคนต่างจังหวัด นักท่องเที่ยวต่างชาติ และแรงงานต่างด้าว โดยยึดสถานีขนส่งและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นที่ทำมาหากิน ซึ่งปัญหาใหญ่ที่ผู้โดยสารจะเจอจากรถแท็กซี่เถื่อน คือ การคิดค่าโดยสารเกินราคา
คนขับรถแท็กซี่มิเตอร์คันนี้ ยังเปิดเผยอีกว่าสาเหตุที่รถแท็กซี่เถื่อน ยังมีอยู่เกลื่อนในกรุงเทพมหานคร เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีเข้มงวดกวดขันอย่างจริงจังกับแท็กซี่ผิดกฎหมายเหล่านี้ และเชื่อว่าแท็กซี่เถื่อนน่าจะมีขบวนการผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง เพราะการมาจอดรถรับผู้โดยสารหน้าสถานีขนส่งได้อย่างเปิดเผย เช่นนี้ แท็กซี่เถื่อนแต่ละคันจะต้องจ่ายค่าจอดรถให้กับคนบางกลุ่ม ในราคาคันละ 20 บาทต่อเที่ยว ยืนยันว่าการแก้ปัญหาแท็กซี่เถื่อน ไม่ยาก หากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทำอย่างจริงจัง
เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาแท็กซี่เถื่อนให้หมดไปได้ คนขับรถแท็กซี่รายนี้จึงแนะนำว่า ผู้โดยสารควรจะเรียกใช้บริการจากรถแท็กซี่ที่เปิดไฟมิเตอร์เป็นสัญญาณเท่านั้น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีปัญหาจากการคิดราคาเกินจากความเป็นจริง และอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ปัญหาอย่างจริงจังเสียที เพราะแท็กซี่เถื่อนคันเดียว ก็อาจสร้างปัญหาทำให้ภาพลักษณ์ของแท็กซี่ต้องมาพลอยได้รับความเสียหายไปด้วยทั้งระบบ