เช้านี้ที่หมอชิต - ในเหตุการณ์โกดังพลุดอกไม้ไฟระเบิดที่ชุมชนมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มีครอบครัวที่สูญเสียพร้อมกัน 5 ชีวิต และในจำนวนนั้น มีแม่และลูกน้อยรวม 3 ชีวิต ทำให้สมาชิกที่เหลืออยู่หัวใจแตกสลาย เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเก็บซากปรักหักพังและช่วยสร้างบ้านใหม่อีกครั้ง
เหตุระเบิดโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟ ใจกลางชุมชนบ้านมูโนะ เมื่อบ่ายวันที่ 29 กรกฏาคมที่ผ่านมาทำให้ คุณยศดนัย บูละ สูญเสียสมาชิกในครอบครัวคราเดียวกันถึง 5 ชีวิต ประกอบด้วย คุณพ่อ นายเด่น ดาโอ๊ะ อายุ 63 ปี น้องสาว 2 คน คือ นางสาวอริษา ดาโอ๊ะ อายุ 19 ปี และ นางจันทร์นิสา ดาโอ๊ะ อายุ 28 ปี ที่เสียชีวิตพร้อมลูกเล็กอีก 2 คน ซึ่งเป็นหลานของยศดนัย คือ เด็กชายอิรชาด ดอเลาะ อายุ 4 ขวบ และ เด็กหญิงอมีลีน ดอเลาะ อายุ 8 เดือน จึงนับเป็นความสูญเสียที่พาหัวใจแตกสลายเกินบรรยาย
คุณยศดนัย เล่าว่า ในวันเกิดเหตุวันนั้น ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ศูนย์ชุดคุ้มครองตำบลมูโนะ ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังและสั่นสะเทือนจนรู้สึกได้ แม้อยู่ห่างจุดเกิดเหตุกว่า 1 กิโลเมตร ยศดนัยรีบวิ่งหาจุดเกิดเหตุ เขาแวะช่วยย่าในซากบ้าน จนพบว่าย่าถูกหลังคาที่ถล่มลงมาทับตัวอยู่ หลังพาย่าไปขึ้นรถฉุกเฉิน หลังจากนั้น คุณยศดนัยมุ่งไปที่บ้านของพ่อ เพราะนึกได้ว่าบ้านพ่ออยู่ติดกับโกดังเก็บพลุ นึกถึงสมาชิกครอบครัวทุกคน ทั้งพ่อ หลาน และน้อง ๆ แต่เมื่อไปถึงบ้านของพ่อ สิ่งที่อยู่ข้างหน้าทำให้เขาทรุดลง เพราะพื้นที่ซึ่งเคยเป็นบ้าน ราบเป็นหน้ากลอง ไม่เหลืออะไรเลย
คุณยศดนัย เล่าต่อว่า จากการสูญเสียครั้งนี้หนักหนากว่าปีที่ผ่านมา คือ 2 ปีที่ผ่านมา เกิดน้ำท่วม แต่บ้านเรือนก็ยังอยู่ ทุกคนสามารถประเมินล่วงว่าควรย้ายออกหรือสามารถอยู่ต่ออยู่ แต่ครั้งนี้มันคือระเบิด ซึ่งชาวบ้านทุกคนไม่สามารถรู้ล่วงหน้า จึงเกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินภายในพริบตา และแย่กว่านั้นคือไม่มีอะไรเหลือ
สิ่งที่คุณยศดนัยสะท้อนออกมา อยากให้ทั้งภาครัฐยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแบบเร่งด่วน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดของมนุษย์ อยากให้มาช่วยเก็บกวาดบ้านที่พังแบบไม่สามารถซ่อมแซมได้อีกแล้ว และขอกำลังช่างมาช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนบางหลังที่พังแค่หลังคา มาช่วยปูกระเบื้องเพื่อให้ทุกคนกลับคืนสู่บ้านตนเองโดยเร็วที่สุด
นอกจากซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัย สิ่งที่ผู้สูญเสียทุกคนต้องการขณะนี้ คือการเยียวยาร่างกายและจิตใจ ซึ่งการเยียวยาที่ดีที่สุดคือการให้ความยุติธรรม คุณยศดนัยบอกว่า แม้ไม่สามารถคืนชีวิตให้หลาน พ่อ และน้องสาวทั้ง 2 คน ได้ แต่ความยุติธรรมจะช่วยให้ทุกคนสามารถก้าวเดินต่อไปในบททดสอบครั้งใหญ่ของชีวิตได้
