ถูกทำร้ายมาตลอด จนไปต่อไม่ไหว เมียเก่าเชื่ออดีตคนรักตั้งใจมาก่อเหตุฆ่ายกครัว เพราะเคยถูกขู่จะทำให้เสียใจมากกว่าเป็น 100 เท่า
ความคืบหน้าคดีฆ่ายกครัว วิน จยย. อดีตลูกเขยคลั่งบุกยิงอดีตแม่ยาย ป้าอดีตภรรยา และลูกติดภรรยา ก่อนปลิดชีพตัวเอง รวม 5 ชีวิต น.ส.วีระยา อายุ 39 ปี หรือชมพู่ อดีตภรรยาของนายสมชาย ผู้ก่อเหตุฆ่ายกครัว 4 ศพ แล้วยิงตัวตายตามเป็นศพที่ 5 เล่าว่า เธอคบหากับนายสมชายมาประมาณ 6-7 ปี ถูกนายสมชายทำร้ายมาอย่างต่อเนื่อง บางครั้งหัวปูด แก้มบวม ถูกเอาปืนจ่อหัว ซึ่งมีพยานที่เป็นคนในคอนโดมิเนียมเห็นกันหลายคน ที่ผ่านมานายสมชายพยายามตามง้อให้กลับไปอยู่ด้วย แต่ตนคิดว่าเขาดูแลไม่ไหว ที่ผ่านมาตนต้องรับผิดชอบทุกอย่างเพียงคนเดียว จนรู้สึกว่าไปต่อไม่ไหว ส่วนประเด็นที่หย่าร้างกัน นายสมชายก็เป็นคนเสนอให้หย่า ในวันที่ไปหย่ากัน ก็ไม่มีการโมโหหรืออะไรทั้งสิ้น
น.ส.วีระยา กล่าวว่า นายสมชายเป็นคนอารมณ์ร้อน รู้ว่าเขามีอาวุธปืนแต่ไม่ทราบว่าเขาเก็บปืนไว้ที่ไหน ยอมรับว่ากังวลว่าเขาอาจนำปืนมาใช้ก่อเหตุได้ ส่วนห้องพักที่ลูกสาวนายสมชายอ้างว่า ตนเข้าไปงัดห้องนั้น ตนซื้อร่วมกับนายสมชาย เป็นเงินที่ได้รับจากการเคลมประกันภัยโควิด โดยใช้ชื่อนายสมชายเป็นเจ้าของห้องกรรมสิทธิ์ เพราะไม่คิดว่าวันหนึ่งจะเลิกกัน เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็เป็นเงินของตนที่ซื้อเอง สาเหตุที่ต้องเข้าไปในห้องก็เพื่อเอากุญแจรถจักรยานยนต์ที่ตนซื้อไว้ แต่ถูกนายสมชายให้คนไปเอามา
น.ส.วีระยา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้บล็อกไลน์ บล็อกเบอร์ของนายสมชาย แต่ยังติดต่อทางเฟซบุ๊กของตนได้ เพราะรถจักรยานยนต์ที่ซื้อในชื่อของตน ยังอยู่กับนายสมชาย 4 คัน แต่เมื่อ 2-3 วันก่อนตนเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถเล่นเฟซบุ๊ก คาดว่าทำให้เขาโมโห และเชื่อว่านายสมชายตั้งใจมาก่อเหตุ เนื่องจากเคยขู่ว่าจะเอาไปทั้งหมด และจะทำให้ตนเสียใจมากกว่าเขาเสียใจเป็นร้อยเท่า นายสมชายส่งข้อความมีลักษณะนี้มาทั้งวัน
น.ส.วีระยา กล่าวอีกว่า ตนสูญเสียคนที่รักมากที่สุดถึง 4 คน ลูกทั้ง 2 คน ก็เลี้ยงดูมาอย่างเต็มที่ แต่ต้องมาห่างจากลูก ๆ เพื่อหนีนายสมชายขณะนี้ได้รับการติดต่อจากทางนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จะให้การช่วยเหลือในการดูแลดำเนินการกับศพของแม่ ป้า และลูก 2 คน โดยจะรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 6 วัดเกาะสุวรรณาราม