สนามข่าว 7 สี - ที่เมื่อวานเรานำเสนอข่าวจับกุมชายแปลกหน้า ที่ตระเวนทำทีถามทางเด็กนักเรียน แล้วฉวยโอกาสทำอนาจารแล้วหลบหนีไป ตำรวจได้แถลงสรุปผลจับกุมคนร้ายรายนี้ ซึ่งเจ้าตัวได้ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป แต่ไม่ขอไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะกลัวถูกรุมประชาทัณฑ์
จุดเริ่มต้นการจับกุมคดีนี้ เริ่มจากมีผู้ปกครองนักเรียนที่เป็นตำรวจ ได้รับได้รับการแจ้งเตือนมาจาก ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ให้ระมัดระวังชายในภาพ อายุประมาณ 40 ปี รูปร่างสันทัด แต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนขายาว มีพฤติกรรมกระทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงหลายราย แล้วหลบหนีไป เหตุการณ์เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม
ทีมสนามข่าวจึงลงพื้นที่ไปตามหาข้อเท็จจริงตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ไปไล่สอบถามชาวบ้าน โดยเฉพาะเส้นทางบริเวณวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ไปจนถึงโรงเรียนสตรีวิทยา แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจุดท้าย ๆ ที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ จนไปเจอชาวบ้านหลายคนให้ข้อมูลตรงกันว่า เคยเห็นชายที่มีรูปเดินตามเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ขึ้นรถประจำทางไปด้วยกัน ก่อนมาลงรถที่หน้าร้านคาเฟ่ ใกล้แยกวันชาติ ทำทีถามทางว่า "อนุสาวรีย์ไปทางไหน" แล้วอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอกระทำอนาจาร ก่อนวิ่งขึ้นรถเมล์หลบหนีไป
หลังเรื่องนี้กลายเป็นข่าว ตำรวจสืบสวนนครบาล ระดมกำลังติดตามค้นหาอยู่นานกว่า 14 วัน ก่อนจะไปจับกุมตัว นายจิรายุส หรือ แจ๊ค อายุ 35 ปี ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในตำบลหนองดินแดง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยเจ้าตัวได้กล่าวขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อน และอ้างว่าสาเหตุที่ทำเกี่ยวข้องกับอาการป่วยทางจิตเวชที่ขาดการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตำรวจพบพยานหลักฐานการก่อเหตุชัดเจนไม่น้อยกว่า 6 คดี เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ไม่ได้เข้าแจ้งความเพราะอับอาย และจากการพูดคุยกับผู้เสียหาย ทราบว่าบางคนยังอยู่ในภาวะตกใจ กลัวการออกไปเผชิญหน้ากับสังคม จึงอยากฝากไปถึงผู้ปกครองของผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความ ให้พามาแจ้งความดำเนินคดี เพื่อให้คนร้ายได้รับโทษตามกฎหมาย
ทั้งนี้ หลังการสอบสวนปากคำ ตำรวจได้แจ้งข้อหากระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม แต่ไม่ได้พาเจ้าตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ ขณะที่วันนี้ตำรวจจะพาตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมคัดค้านประกันตัวฯ
