ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง เสียชีวิตรายแรกในไทย

View icon 223
วันที่ 14 ส.ค. 2566 | 20.05 น.
ข่าวภาคค่ำ
แชร์
ข่าวภาคค่ำ - ไทย พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง เสียชีวิตรายแรกแล้ว เป็นผู้ติดเชื้อ HIV ร่วมด้วย

ไทม์ไลน์อาการของผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่เสียชีวิต เป็นชายอายุ 34 ปี เริ่มมีอาการไข้ ปวดศีรษะ คัน และมีผื่นและตุ่มขึ้นตามตัว ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดชลบุรี

แพทย์สงสัยเป็นโรคฝีดาษลิง จึงส่งตัวอย่างตรวจยืนยันผล พบสารพันธุกรรมไวรัสฝีดาษลิง ขณะเดียวกันยังตรวจพบเชื้อเอชไอวีและเชื้อซิฟิลิสด้วย แพทย์ได้รักษาผื่นแผลจากโรคฝีดาษลิงที่กระจายไปทั่วตัว ครบ 4 สัปดาห์ แล้วให้กลับบ้าน

ต่อมาอาการทรุด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม อ่อนเพลีย หายใจลำบาก ญาตินำส่งสถาบันบำราศนราดูร นอกจากผื่นแผลฝีดาษแล้ว แพทย์ตรวจพบเนื้อเยื่อตายที่จมูกและคอ และมีภาวะติดเชื้อแทรกซ้อนที่แขนและขา ปอดอักเสบ และอาการสมองอักเสบ และภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง แพทย์ได้ให้ยาต้านไวรัสฝีดาษลิง และยาปฏิชีวนะ ต่อมาผู้ป่วยอาการทรุดลง และเสียชีวิตในคืนวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา

อัปเดตโรคฝีดาษลิงในไทย มีรายงานผู้ป่วยสะสม 189 คน แบ่งเป็นคนไทย 161 คน ชาวต่างชาติ 28 คน

แนวโน้มการระบาดโรคฝีดาษลิงเพิ่มขึ้น ตั้งแต่มีเทศกาล Pride Month ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และกว่าครึ่งเป็นผู้ติดเชื้อ HIV อยู่ด้วย ความเสี่ยงหลักจากการสัมผัสใกล้ชิด มีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง 

ถ้ามีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่น หรือ ตุ่มน้ำ หรือ ตุ่มหนอง ขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือ ทวารหนัก หรือ บริเวณรอบ ๆ ตามมือ เท้า หน้าอก ใบหน้า หรือบริเวณปาก ให้รีบเข้ารับการตรวจรักษา ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทันที โดยแจ้งอาการและประวัติเสี่ยงด้วย

ทั่วโลกมีรายงานผู้ป่วยฝีดาษลิงเสียชีวิตแล้ว 152 คน ตั้งแต่เริ่มการระบาดในยุโรป และหลายประเทศ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 ขณะนี้ ไทยมียาต้านไวรัสฝีดาษลิง เรียกว่า ยา TPOXX ได้รับมอบจากองค์การอนามัยโลก เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง