สาวจีนคนขับรถโรลส์รอยซ์ ยืนยันให้คู่กรณีชดใช้ ประเมินซ่อม 1.3 ล้าน

สาวจีนคนขับรถโรลส์รอยซ์ ยืนยันให้คู่กรณีชดใช้ ประเมินซ่อม 1.3 ล้าน

View icon 18.3K
วันที่ 16 ส.ค. 2566 | 12.09 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สาวจีนคนขับ โรลส์รอยซ์ ยืนยันไม่ใช่ฝ่ายผิด ไม่ขอยอมความ ยืนยันให้คู่กรณีชดใช้ ประเมินค่าซ่อมเบื้องต้นประมาณ 1.3 ล้านบาท ตำรวจติดต่อคู่กรณีแล้ว นัดคุย 18 ส.ค.

รถกระบะชนโรลส์รอยซ์บนมอเตอร์เวย์ คดีพลิกแล้วจากตอนแรกไม่เอาเรื่อง ต่อมาสาวจีนโผล่บอกไม่ได้ใจดี แต่พูดภาษาไทยไม่ได้ ล่าสุดวันนี้ (16 ส.ค.2566) สาวจีน คนขับรถโรลส์ รอยซ์ทราบชื่อคือ นางสาวซุน ยูฮัน อายุ 38 ปี เดินทาง พร้อมด้วยนายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองกำกับการตำรวจทางหลวง 8 เพื่อเอาผิดกับคนขับรถกระบะที่ชนท้ายรถ เมื่อ 13 สค. ที่ผ่นนมา จุดเกิดเหตุบริเวณ ถนนมอเตอร์เวย์ขาออก

คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไม่ได้ใจดี ! สาวจีนขับโรลส์รอยซ์ จ่อเรียกค่าเสียหายรถกระบะชนท้าย

นางสาวซุน เจ้าของรถชาวจีนรายนี้ เล่าว่า ทำธุรกิจร้านอาหารในไทยมีสาขาทั้งใน กรุงเทพมหานคร และ พัทยา วันเกิดเหตุ กำลังจะนำรถเข้าเช็กที่ศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ระหว่างที่ขับรถมาตามลำพัง ใช้ความเร็วประมาณ 80 กม. ต่อชั่วโมง แต่การจราจรด้านหน้าชะลอตัว ปรากฎว่ารถกระบะคู่กรณีขับมาพุ่งชนท้ายอย่างแรง ตัวเธอจึงลงไปเจรจากับคู่กรณี แต่ด้วยความที่พูดไทยไม่ได้ จึงใช้แอปพลิเคชันแปลภาษาสื่อสารกับคนขับกระบะ บอกว่าให้ไปเจอกันที่ศูนย์บริการซ่อมรถ เพราะกำลังเอารถไปตรวจเช็ก ซึ่งเธอได้ขับรถไปรอที่ศูนย์แต่คู่กรณีไม่มา

นางสาวซุน ยูฮัน ยืนยันไม่ได้บอกว่าจะไม่เอาความ เมื่อทราบจากข่าวจึงตกใจ และรีบปรึกษาทนาย ซึ่งเป็นทนายที่ดูแลว่าความให้เธออยู่แล้ว ยืนยันจะให้คู่กรณีชดใช้ เบื้องต้นประเมินว่า ต้องซ่อมประมาณ 1.3 ล้านบาท

สำหรับรถโรลส์รอยซ์ มีประกันชั้น1 แต่เธอบอกผ่านล่ามว่า เธอไม่ได้เป็นคนผิด จึงไม่ยอมความ และอยากให้ตำรวจตามตัวคู่กรณีมารับผิดชอบ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุคนขับกระบะยังไม่ติดต่อมาเลย ส่วนความเสียหาย อยากให้ประกันมาคุยกัน โดยวันที่ 18 สิงหาคมนี้ ได้นัดบริษัทประกัน มาตีราคาซ่อมรถอีกครั้ง

ด้าน พันตำรวจโท โสภณ โกมลสุทธิ รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ติดตามตัวคนขับรถกระบะคู่กรณีได้แล้ว โดยจะเรียกมาให้ปากคำในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ ทั้งคู่ยังไม่ได้มาแจ้งความ ตำรวจก็ทราบเรื่องจากโซเชียลเท่านั้น จากนี้จะนำภาพวงจรปิดมาดูว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด ซึ่งคนขับรถกระบะก็ไม่ได้คิดหลบหนีแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง