ควาญช้างใช้มีดจิ้มหลังช้างถูกสลัดตกหลัง โมโหตะโกนด่า ถูกช้างรู้ภาษากระทืบดับคาที่

ควาญช้างใช้มีดจิ้มหลังช้างถูกสลัดตกหลัง โมโหตะโกนด่า ถูกช้างรู้ภาษากระทืบดับคาที่

View icon 12.3K
วันที่ 27 ส.ค. 2566 | 13.25 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ควาญช้างเลือดร้อน หลังจากตกลงซื้อขายจะนำช้างขึ้นรถ แต่ช้างไม่ยอม จึงใช้มีดจิ้มหลัง ถูกช้างสลัดตกจากหลัง จึงโมโหตะโกนด่าทอช้าง ทำให้เอางวงฟาด ใช้งาแทง และกระทืบซ้ำดับคาที่ และช้างยังเฝ้าศพควาญไว้ ไม่ให้ใครเข้าใกล้ ทางคุณหมอเผยช้างตัวดังกล่าวค่อนข้างรู้ภาษา

วันนี้ (27 ส.ค. 66) ทางผู้ใหญ่บ้านบ้านใหม่ หมู่ที่ 1 ต.แม่ต้าน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก รายงานว่า เกิดเหตุช้างใช้งาแทงควาญช้างเสียชีวิตคาป่าใกล้บริเวณป่าช้าข้างทาง จึงขอประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิอนุรักษ์ช้าง และสิ่งแวดล้อมจากจังหวัด เชียงใหม่ เนื่องจากช้างพลายที่ก่อเหตุได้เฝ้าศพควาญช้างที่ทำร้ายไว้ โดยไม่ยอมให้ใครเข้าไปใกล้ โดยขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ตาย

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปจุดเกิดเหตุ และสอบสวนนายสอนศิริ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้ารับซื้อช้างพลายตัวดังกล่าวเดินทางมาจากจังหวัดสุรินทร์ โดยมีหมอช้างกัมพูชา ได้มีการตกลงซื้อช้างพลายเพศผู้อายุ 30 ปี ซึ่งมีลักษณะสวยงามตามลักษณะซื้อขายกันในราคา 2,760,000 บาท และได้โอนเงินมาแล้ว พอถึงวันนัดรับช้างเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 66 ควาญช้างให้ช้างพลายขึ้นรถบรรทุกที่ฝ่ายซื้อเตรียมมา

ทางคนรับซื้อเผยอีกว่า ระหว่างควาญช้างจะขึ้นขี่หลังช้างพลาย เพื่อจะบังคับให้เดินทางออกจากโพรงป่าไปขึ้นรถ ได้ใช้มีดไปจิ้มบริเวณด้านหลัง ทำให้ช้างพลายเกิดอาการหงุดหงิดสลัดควาญช้างลงจากหลัง แต่ควาญเกิดบันดาลโทสะขึ้นที่ช้างสลัดตนเองตก จึงได้ด่าทอคำหยาบด้วยภาษากระเหรี่ยงเสียงดังลั่น ต่อมาเจ้าช้างพลายเมื่อได้ฟังก็ยิ่งโกรธใช้งวงกระแทก และใช้งาแทงควาญช้างคนดังกล่าวจนเสียชีวิต ซึ่งก็สร้างความตกใจให้กับคนซื้อต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มายังที่เกิดเหตุทันที แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เนื่องจากช้างยืนเฝ้าศพควาญช้างไว้ และไม่สามรถเข้าไปใกล้ได้

ด้านสัตว์แพทย์ที่เดินทางไปที่เกิดเหตุ ให้ความเห็นว่า ช้างพลายดังกล่าวค่อนข้างรู้ภาษา และคงจะรู้ว่าจะนำตนไปยังที่อื่น จึงเกิดอาการหงุดหงิด และทำร้ายเจ้าของ ซึ่งช้างพลายตัวนี้ขณะทำร้ายก็ไม่ได้ตกมันหรือมีอาการใดใดเป็นสิ่งบอกเหตุ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบ ตรวจเลือด และอื่น ๆ แล้วก็ไม่มีอะไร

ขณะที่ทีมงานกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมท่าสองยางแจ้งว่า ช้างกับศพคราญช้างอยู่ในโพรงป่าข้างทาง ช้างเฝ้าศพไม่ห่างจากควาญ จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปนำศพออกมา แค่ไปดูก็ยังไม่ได้ และมองเห็นไม่ค่อยชัดเจน เนื่องจากมีต้นไม้ และป่ารกทึบบดบัง ประกอบกับฝนตกลงมาตลอดทั้งวันเป็นอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่

ล่าสุดเจ้าหน้าที่อาจต้องใช้ปืนยิงยาสลบ เพื่อจะนำร่างของควาญช้างออกมาก่อนให้ได้ โดยรอเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิอนุรักษ์ช้าง และสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับควาญช้างที่ถูกทำร้ายเสียชีวิตชื่อนายพีตู อายุ 57 ปี ส่วนช้างชื่อพลาย “พะลูตู” อายุ 30 ปี