สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ทนายความพาเหยื่อผู้เสียหายจากหลายจังหวัดในภาคอีสาน บุกโรงพัก ทวงถามความคืบหน้าคดีเอาผิดกับเจ้าของเต็นท์รถมือสองชื่อดังในจังหวัดบุรีรัมย์ ฉ้อโกงซื้อขาย-แลกเปลี่ยนรถ หลังคดีไม่คืบหน้ามานานกว่า 6 ปี บางคนเสียทั้งรถ และถูกฟ้องยึดบ้านที่ดิน
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น พากลุ่มผู้เสียหายที่ถูกเจ้าของเต็นท์รถมือสองรายใหญ่ใน อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ฉ้อโกงในการซื้อขายแลกเปลี่ยนรถทั้งรายเก่าและรายใหม่กว่า 100 คน ทั่วภาคอีสาน เดินทางไปทวงถามความคืบหน้าของคดีกับตำรวจ สภ.สตึก หลังคดีไม่คืบหน้ายืดเยื้อมานานกว่า 6 ปี ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
พันตำรวจโท วชิรวิทย์ วรรณธานี ผู้กำกับการ สภ.สตึก ชี้แจงว่า ภายหลังจากที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความกรณีถูกเจ้าของเต้นรถฉ้อโกงตั้งแต่ปี 2561-2566 รวมกว่า 240 คน มูลค่าความเสียหายเกือบ 100 ล้าน หลังรับเรื่องทางพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง
ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนทั้งหมดให้อัยการจังหวัดพิจารณาแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของอัยการที่จะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง โดยเต็นท์รถมีพฤติการณ์รับซื้อขายรถยนต์ที่ติดไฟแนนซ์ รับปากว่าจะจ่ายค่างวดค่าเบี้ยปรับให้ลูกค้า และปิดบัญชีให้ หลังจากที่ลูกค้าขายรถยนต์ให้ทางเต็นท์แล้ว กลับไม่ได้ปิดบัญชี และไม่จ่ายส่วนต่างให้ตามที่ตกลง เป็นเหตุให้ลูกค้าถูกฟ้องบังคับตามสัญญาเช่าซื้อที่มีอยู่เดิม บางรายต้องผ่อนกุญแจเปล่า ๆ เพราะเมื่อลูกค้าขอรถคืนก็จะแจ้งลูกค้าว่าได้ขายรถไปแล้ว แต่ไม่ยอมปิดงวดไฟแนนซ์เดิมทำให้ลูกค้าถูกฟ้อง
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บอกว่า ได้พาผู้เสียหายคดีที่ถูกเต้นรถฉ้อโกงจากหลายจังหวัดภาคอีสานมาติดตามทวงถามความคืบหน้าคดีที่โรงพักสตึก เพราะคดีดังกล่าวยืดเยื้อมานานเกินไป ไม่รู้ว่าสาเหตุอะไร แต่เท่าที่ได้รับทราบข้อมูลจากผู้เสียหายก็บอกว่า เนื่องจากผู้ต้องหามีญาติเป็นอัยการจึงทำให้คดีล่าช้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะจริงหรือไม่อย่างไร จึงอยากให้ทางตำรวจเร่งรัดคดี เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย