ไทยออยล์น้ำมันดิบรั่วชลบุรี ล่าสุดเจ้าหน้าที่จัดเก็บแล้ว

ไทยออยล์น้ำมันดิบรั่วชลบุรี ล่าสุดเจ้าหน้าที่จัดเก็บแล้ว

View icon 186
วันที่ 4 ก.ย. 2566 | 17.42 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ไทยออยล์น้ำมันดิบรั่วชลบุรี ล่าสุดเจ้าหน้าที่จัดเก็บแล้ว เร่งบินพารามอเตอร์สำรวจความเสียหาย หวั่นกระทบสัตว์น้ำพื้นที่ใกล้เคียง

ไทยออยล์น้ำมันรั่ว จัดเก็บแล้ว วันนี้(4 กันยายน 2566) นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) กล่าวว่า จากกรณีเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมัน ขณะขนถ่ายน้ำมันดิบบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล หมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ซึ่งอยู่บริเวณทางตอนใต้ของเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 กรมฯ เร่งดำเนินการประสานงานกับ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เพื่อรีบจัดการคราบน้ำมัน ก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังบริเวณใกล้เคียง

โดยบริษัท ไทยออยล์ จำกัด แจ้งว่า ภายหลังเกิดเหตุได้เข้าควบคุมสถานการณ์บริเวณที่เกิดเหตุทันที โดยปิดวาล์วท่อน้ำมันที่เกิดปัญหาและวางทุ่นล้อมคราบน้ำมันเพิ่มเติมเพื่อป้องกันและจำกัดการแพร่กระจายตามขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานสากล ทำให้ขณะนี้ไม่มีน้ำมันรั่วไหลเพิ่มเติมแล้วและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งบริษัทฯ ได้ร่วมกับกรมเจ้าท่าฉีดพ่นสารเคมีเพื่อขจัดคราบน้ำมันให้ย่อยสลายบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน บริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมกันดำเนินการจัดเก็บคราบน้ำมันได้ทั้งหมดแล้ว อีกทั้งได้มีการบินพารามอเตอร์ เพื่อสำรวจบริเวณใกล้เคียง โดยไม่พบคราบน้ำมันแต่อย่างใด ในการนี้ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก (ศวทอ.) สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ลงพื้นเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำบริเวณที่เกิดเหตุไปตรวจสอบคุณภาพน้ำ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเล เนื่องจากหากมีคราบน้ำมันลอยอยู่บนผิวน้ำจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง และปิดกั้นการสังเคราะห์แสงของแพลงก์ตอนพืช สาหร่าย และพืชน้ำต่างๆ เปลี่ยนแปลงสภาวะการย่อยสลายของแบคทีเรียในน้ำ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดล้วนส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำทะเลที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ศวทอ. และสทช.2 จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบทรัพยากรทางทะเลหากผลเป็นประการใดจะรายงานให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ นายอภิชัย ขอความร่วมมือประชาชน และนักท่องเที่ยว ช่วยกันสอดส่องดูแล โดยหากพบน้ำมันรั่วไหลบริเวณทะเลและชายฝั่ง หรือพบการกระทำผิดกฎหมาย สามารถแจ้งมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร.1362 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่เร่งเข้าตรวจสอบ และช่วยเหลือได้ทันท่วงทีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง