ยกฟ้องชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดี แอม ไซยาไนด์” ฟ้อง “รพี” ออกรายการทีวีหมิ่นประมาท

ยกฟ้องชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดี แอม ไซยาไนด์” ฟ้อง “รพี” ออกรายการทีวีหมิ่นประมาท

View icon 79
วันที่ 5 ก.ย. 2566 | 12.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลอาญา ยกฟ้องชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดี แอม ไซยาไนด์” ฟ้อง “รพี” ออกรายการทีวีหมิ่นประมาท ด้านทนายพัช จ่อยื่นอุทธรณ์ เย้ย ”บิ๊กโจ๊ก” ส่งอัยการฟ้องสำนวนเดียว ขู่ฟ้องกลับสำนวนที่เหลือเงียบหาย

วันนี้ (5 ก.ย.66) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ในคดี อ.1090/2566 ที่ นางแอม ผู้ต้องหาคดีวางยาฆาตกรรมเหยื่อหลายราย ฟ้องนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอม ไซยาไนด์ ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณาฯ หลังไปออกรายการดังช่องหนึ่ง

โดยก่อนเข้าฟังคำสั่ง น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ ทนายความฝั่งจำเลย เผยว่า วันนี้ศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ หลังมีการไต่สวนพยานไปแล้ว 2 นัด โดยการฟ้องคดีโจทก์อ้างว่าลูกความตนไปให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง และใช้คำพูดว่า “โกหกเจ้าหน้าที่จนหัวปั่นและหลอกตำรวจ” ซึ่งเป็นการพูดตามข้อเท็จจริง ในวันนี้นายรพีไม่ได้มาร่วมฟังคำสั่งเนื่องจากติดภารกิจอยู่ต่างจังหวัด

ด้าน น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ทนายความของนางแอม เผยก่อนเข้าห้องพิจารณาว่า หากคดีนี้ศาลมีคำสั่งว่าคดีไม่มีมูลตนก็จะอุทธรณ์ต่อไป แต่ถ้าศาลเห็นว่าคดีมีมูลและมีคำสั่งรับฟ้อง กรณีที่นายรพีไม่มาฟังคำสั่ง ตนเองก็จะส่งหมายศาลไปยังภูมิลำเนา ทั้งนี้ มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีจะเอาผิดกับนายรพีได้ ซึ่งนายรพีก็ยอมรับเองว่าบุคคลที่อยู่ในคลิปนั้นเป็นตนเองจริง ในชั้นนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาว่ามีองค์ประกอบความผิดหรือไม่ ส่วนการกระทำดังกล่าวจะเป็นความผิดหรือไม่นั้น ก็เป็นอีกชั้นหนึ่ง คือศาลต้องรับฟ้องก่อนเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาคดีต่อไป

ต่อมาศาลได้อ่านคำสั่ง โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่นายรพีจำเลย ได้รับมอบอำนาจจากมารดาผู้ตายให้ดำเนินการแทนได้ เรื่องให้ข้อมูลทางภาครัฐและทางสื่อมวลชนดังนั้นที่จำเลยออกไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่าโกหกตำรวจจนหัวปั่นนั้น เป็นข้อเท็จจริงจากแนวทางการสืบสวนของตำรวจ ในรายการหนึ่ง จึงเป็นการกล่าวโดยสุจริตไม่เป็นความผิด ยกฟ้อง

ภายหลังศาลมีคำสั่ง น.ส.อำนวยพร เผยว่า ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่านายรพีได้รับมอบอำนาจจากญาติผู้เสียหาย ซึ่งการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์นั้นเป็นไปตามข้อเท็จจริงจากการสืบสวนของตำรวจชุดคลี่คลายคดี เป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐด้วย จึงเป็นการให้สัมภาษณ์โดยสุจริต แต่ฝ่ายโจทก์ยังมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน หรืออาจจะขยายอุทธรณ์ได้ครั้งละ 1 เดือน ซึ่งนายรพีเองก็รู้สึกดีใจที่ได้รับความยุติธรรมจากศาลในครั้งนี้

ด้าน น.ส.ธันย์นิชา เผยว่า หลังจากนี้เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งภายใน 30 วัน หลังมีพยานหลักฐานใหม่ที่ยื่นต่อศาลไปแล้วเมื่อวานนี้ เป็นเอกสารเกี่ยวกับใบรับมอบอำนาจมารดาของผู้เสียชีวิตให้กับนายรพี ซึ่งพบความผิดปกติ โดยในเอกสารมอบอำนาจ ลงวันที่ 14 เม.ย.66 แต่เอกสารสำเนาบัตรที่ใช้ยื่นประกอบรับรองการมอบอำนาจ พบเป็นวันที่ 1 พ.ค.66 ซึ่งอาจเป็นการออกบัตรหลังจากที่มีการทำหนังสือมอบอำนาจ เชื่อว่าจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงคำสั่งในชั้นอุทธรณ์ต่อไป ส่วนเรื่องคดีความของนางแอม ตำรวจอ้างว่าจะมีการสรุปสำนวนฟ้องนางแอมรวมทั้งหมด 15 สำนวน ขณะนี้มีเพียงสำนวนเดียวคือคดีของ น.ส.ก้อย  ที่ส่งมาถึงอัยการเท่านั้น ฝากไปถึงพล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำกับดูแลคดีดังกล่าวว่าความคืบหน้าในการทำสำนวนที่เหลือไปถึงไหนแล้ว หากตำรวจไม่มีการฟ้องสำนวนที่เหลือตามที่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้  ตนเตรียมฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงญาติผู้เสียชีวิตที่เหลือด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง