ห้องข่าวภาคเที่ยง - ปัญหาทุจริตเป็นเรื่องที่แก้ไม่ตกสักที อย่างเรื่องนี้ "แก๊งค้าไม้ข้ามชาติ" มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเอี่ยว ทั้งป่าไม้ อุทยานฯ ตำรวจ ฯลฯ รับเงินเปลี่ยนผิดให้เป็นถูกกว่า 36 คน ทำมาหลายปีแล้วด้วย
คนที่ไปตรวจสอบคือ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ที่ ผอ.ชัยวัฒน์ ยื่นเอกสารการกระทำความผิดให้ดู ทำอะไรไม่ถูกเลย อ้างอย่างเดียวเอกสารผิดหรือไม่ ให้ไปดูมาใหม่ จนนายชัยวัฒน์ ถึงกับขำเลยทีเดียว ซึ่งนี่แค่ 1 ใน 37 คน ที่ร่วมกระทำความผิดลอบค้าไม้ข้ามชาติ
เรื่องนี้กรมอุทยานฯ ติดตามมาหลายปี ตั้งแต่ปี 2564 หลังแก๊งมอดไม้ลอบตัดไม้ในพื้นที่หวงห้าม ทางกรมอุทยานฯ ยึดไม้ของกลางส่งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เป็นผู้ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าไม้ที่ตัดผิดกฎหมาย ถูกกฎหมายเฉยเลย มีเอกสารยืนยันด้วย ทั้งโฉนดที่ดิน เอกสิทธิ์การเป็นเจ้าของไม้
มีหลักฐานอีกด้วย เพราะเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คือ กรมอุทยานฯ ฝังชิปไว้ในต้นไม้ จนขยายผลพบมีการลอบต้นไม้ไปที่จังหวัดสุรินทร์ จึงไปจับกุม ตอนค้นไม่เจอของกลาง แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง พบว่าไม้ถูกทิ้งไว้ในสระน้ำ เจ้าหน้าที่ต้องลงไปงมมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สืบไปสาวมาพบว่า ต้นตอของเรื่องนี้คือ พนักงานราชการสำนักเศรษฐกิจการป่าไม้ เปิดบริษัทส่งออกไม้ ทำธุรกิจกันเป็นครอบครัว แม่ลูกเปิดโรงงานที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน เปลี่ยนไม้ที่ผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมาย
เริ่มจากแฝงตัวในสำนักเศรษฐกิจการป่าไม้ จากลูกจ้างเป็นพนักงานราชการ ก่อนใช้เงินซื้อทุกอย่างเปิดทางการกระทำผิด ซึ่ง ผอ.ชัยวัฒน์ แฉเส้นทางการโอนเงิน พบโยงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 16 คน กว่า 8 ล้านบาท, ตำรวจ 8 คน 2 ล้านบาท, เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 3 ล้านบาท, เจ้าหน้าที่อัยการเกือบ 300,000 บาท และทหารอีก 20,000 บาท รวมกว่า 14 ล้านบาท ยังมีระดับผู้บริหารอีก 7 คน ที่รับไป 41 ล้านบาท
อย่างผู้ใหญ่รายนี้ รับเงินโอนเงิน 5 ครั้ง ได้เงินค่าปิดปากไปกว่า 2 ล้านบาท
เราสอบถามอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ข้อมูลกับสนามข่าวว่า สำหรับกรมป่าไม้ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ยืนยันหากใครผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย และลงโทษทางวินัยสูงสุด ส่วนหน่วยงานอื่น ๆ ต้องดูต้นสังกัดว่าจะดำเนินการอย่างไร
