จุรินทร์ ยังข้องใจอีกหลายนโยบายของรัฐบาล ที่ชี้แจงไม่ชัดเจน โดยเฉพาะดิจิทัล 1 หมื่นบาท

จุรินทร์ ยังข้องใจอีกหลายนโยบายของรัฐบาล ที่ชี้แจงไม่ชัดเจน โดยเฉพาะดิจิทัล 1 หมื่นบาท

View icon 59
วันที่ 12 ก.ย. 2566 | 13.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
จุรินทร์ ยังข้องใจอีกหลายนโยบายของรัฐบาล ที่ชี้แจงไม่ชัดเจน โดยเฉพาะดิจิทัล 1 หมื่นบาท ว่าจะนำเงินมาจากส่วนไหน พร้อมขอบคุณเสียงชื่นชม ประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบแทนประชาชน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายนโยบายรัฐบาลเมื่อวานนี้ ว่า จากที่ฟังการอภิปรายเมื่อวานนี้ รัฐบาลรับฟังข้อเทียมของตนเอง 1 เรื่อง คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ขอให้แก้ไขให้มีความชัดเจน คลายความกังวล เพราะในนโยบายเขียนไว้เพียงว่า จะไม่แก้ไขในหมวด 2 ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์  ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ได้ระบุว่า จะไม่แก้ไขหมวด 1 ซึ่งมีความสำคัญเช่นกัน  เพราะเป็นหมวดที่ระบุว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับว่า ความคิดแบ่งแยกดินแดนปรากฏให้เห็นชัดขึ้น จึงต้องการให้รัฐบาลระบุให้ชัดเจน ว่าหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องไม่แก้ทั้งหมวด 1 และหมวด 2 เพราะนโยบายระบุไว้ว่า จะไม่แตะแค่หมวด 2 ซึ่งเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีก็ออกมารับรองแล้ว ถ้าจะไม่แตะทั้งหมด 1 และหมวด 2 ตามที่ตนเองได้ทักท้วงไว้

ส่วนนโยบายอื่นๆ ยังถือว่า มีความคลุมเครือ ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย หลายนโยบายยังไม่ตรงปก เช่น นโยบายค่าแรงของผู้ใช้แรงงาน แนวทางการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตร ซึ่งทั้งหมดยังไปผูกกับคำว่า "ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น" แต่ไม่ได้บอกว่า เมื่อไหร่ อย่างไร เหมือนที่พูดไว้ตอนหาเสียง รวมทั้งนโยบายด้านการเกษตร หากไม่ทำเรื่องจำนำข้าวและประกันรายได้เกษตรกรที่มีเงินส่วนต่าง จะมีนโยบายอะไรที่เป็นรูปธรรมมาทดแทน เพื่อแก้ปัญหาหาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน มีเพียงเรื่องการพักชำระหนี้เกษตรกรเท่านั้น
      
ส่วนเงินดิจิทัล wallet ก็ได้คำตอบเพียงแต่ว่า จะไม่กู้ ไม่นำเงินกองทุนต่างๆ รวมทั้งเงินหลวงตาบัวมาใช้ แต่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า จะนำเงินมาจากส่วนไหน ซึ่งก็ยังเหลืออีกอย่างเดียว คืองบประมาณแผ่นดิน แต่งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ 2567 สำนักงบประมาณก็ยืนยันแล้วว่า จะมีเงินเหลือให้รัฐบาลไปใช้ในนโยบายใหม่ ไม่เกิน 200,000 ล้านบาท ขณะที่โครงการดิจิทัล wallet จะต้องใช้เงิน 560,000 ล้านบาท ดังนั้นหากนำ 200,000 ล้านบาทมาใช้ ก็จะทำให้รัฐบาลไม่มีเงินสำหรับดำเนินการนโยบายด้านอื่นๆเลย ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การสอบถามรัฐบาลครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการกดดัน แต่เป็นการสอบถามแทนประชาชน เพราะเรื่องที่ประชาชนจะต้องรู้ และเป็นเรื่องที่รัฐบาลผู้กำหนดนโยบายจะต้องแจ้งต่อ กกต. อยู่แล้ว เหตุใดวันนี้จึงตอบไม่ได้